7 ข้อผิดพลาดในการทำความสะอาดที่ส่งผลร้ายมากกว่าผลดี

7 ข้อผิดพลาดในการทำความสะอาดที่ส่งผลร้ายมากกว่าผลดี

7 ข้อผิดพลาดในการทำความสะอาดที่ส่งผลร้ายมากกว่าผลดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นการดูดฝุ่น ล้างจาน เช็ดหน้าต่าง แน่นอนว่า เป็นงานที่คุณทำเพื่อให้บ้านของคุณสะอาด ขจัดเชื้อโรค และสิ่งสกปรก ให้คนในบ้านมีอนามัยที่ดี แต่ทราบหรือไม่ว่า การทำความสะอาดที่ผิดวิธี นั้น อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว และ 7 ข้อผิดพลาดในการทำความสะอาด ที่คุณมักจะทำกันอยู่เป็นประจำ มีดังนี้

1.ใช้ฟองน้ำเก่า : ฟองน้ำที่เราใช้กันอยู่นั้น ทราบหรือไม่ว่า เพียงแค่เรานำมาใช้แค่สองหรือสามครั้ง แบคทีเรียก็เข้าไปอยู่และก็เติบโตขยายตัวกันแล้ว และหากเรานำฟองน้ำเก่า ไปทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ในบ้าน ก็เป็นการนำเอาเชื้อแบคทีเรียไปกระจายตามจุดต่าง ๆ นั่นเอง แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้อง ทิ้งมันไปหลังการใช้งานแค่ไม่กี่ครั้ง แต่เราต้องทำความสะอาด ฟองน้ำทุกวัน ด้วยการจับใส่เข้าไปในไมโครเวฟสักหนึ่งนาที และเมื่อใดก็ตาม ที่เริ่มรู้สึกว่ามันมีกลิ่น ก็ให้นำไปทิ้งเสีย

2.นำช้อน ส้อม มีด ใส่ลงไปในเครื่องล้างจานไม่ถูกท่า : หลายคนมักจะใส่ช้อน ส้อม มีด ลงไปในเครื่องล้านจาน โดยเอาด้านมือจับขึ้นข้างบน ซึ่งนั่นเป็นท่าที่ไม่ถูก ทำให้น้ำร้อน กระจายไปได้ไม่ทั่วถึง วิธีที่ถูกคือ ให้ใส่ช้อนและส้อมโดยเอาด้านมือจับลง ส่วนมีดให้เอาด้านมือจับขึ้น และที่ต้องให้นำมือจับมีดขึ้น ก็เพื่อป้องกันไม่ให้มีดบาดมือ เวลานำออกจากเครื่องนั่นเอง

3.เอาน้ำยาทำความสะอาดแต่ละอย่างมาผสมกันใช้ : บางคนก็เอาผงซักฟอก มาผสมกับน้ำยาถูพื้น แล้วนำมาเช็ดทำความสะอาด แต่ทราบหรือไม่ว่า การผสมน้ำยาเหล่านั้น สามารถก่อให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้ เพราะน้ำยาทำความสะอาดแต่ละชนิด จะมีส่วนผสมของสารเคมีต่างชนิดกันอยู่ และหากนำมาผสมกัน ก็อาจจะเกิดการทำปฏิกิริยาทางเคมีกันขึ้น ก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นไม่ควรผสมกัน แต่ละขวด แต่ละแพค ใช้ให้หมดเป็นขวด ๆ ไป

4.ไม่นำแปรงทำความสะอาดโถส้วมไปตากให้แห้ง : หลายบ้านมีอุปกรณ์ซึ่งเป็นแปรงขัดทำความสะอาดสุขภัณฑ์อยู่ในห้องน้ำ และเมื่อใช้งานเสร็จ ก็ทิ้งไว้อย่างนั้น ทำให้เกิดความชื้น และเกิดการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้น หลังการทำความสะอาด ควรนำเอาอุปกรณ์มาตากให้แห้งสัก 20 นาที ก่อนจะนำไปเก็บ

5.ทำความสะอาดโดยไม่สวมถุงมือ : คุณควรคิดไว้เสมอว่า มือของเรานั้นไม่ควรสัมผัสกับน้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีเหล่านี้เลย สารเคมีสามารถทำอันตรายต่อผิวหนังของเราได้ หรือหากไม่แรงนัก ก็ทำให้ผิวแห้ง ดังนั้น จึงควรสวมถึงมือทุกครั้ง ที่จะลงมือทำความสะอาด

6.เมื่อฉีดน้ำยาลงบนพื้นผิวแล้ว คุณเช็ดออกทันที : คราบสกปรกต่าง ๆ โดยเฉพาะคราบอาหารที่ติดอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวนั้น เช็ดออกยาก ดังนั้น แทนที่คุณจะต้องออกแรงขัด ให้เปลี่ยนเป็นการฉีดน้ำยาทำความสะอาดลงไป แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ค่อยเช็ดออก งานจะเบาแรงขึ้นเยอะ

7.ใช้น้ำยาเช็ดกระจกมาทำความสะอาดเคาน์เตอร์และพื้นบ้าน : แม้ว่าน้ำยาเช็ดกระจก จะสามารถนำมาใช้เช็ดทำความสะอาดคราบกาแฟบนโต๊ะออกได้ แต่ทางที่ดี ไม่ควรใช้เป็นประจำ น้ำยาเช็ดกระจก ก็ควรใช้กับกระจก ส่วนการทำความสะอาดเชื้อโรคที่โต๊ะอาหาร หรือพื้นบ้าน ก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับจุดนั้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook