7 ข้อควรรู้ก่อนลงมือซ่อมแซมพื้นไม้เนื้อแข็ง

7 ข้อควรรู้ก่อนลงมือซ่อมแซมพื้นไม้เนื้อแข็ง

7 ข้อควรรู้ก่อนลงมือซ่อมแซมพื้นไม้เนื้อแข็ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พื้นบ้านที่เป็นพื้นไม้ โดยเฉพาะพื้นไม้เนื้อแข็ง เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้ว ค่อนข้างจะซ่อมแซมแก้ไขได้ยาก และที่สำคัญ เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นมา ก็มักจะขยายวงกว้าง เสียหายมากขึ้น และกลายเป็นจุดดักคราบ เกิดความสกปรก หากทิ้งไว้นาน ดังนั้น จึงต้องรีบแก้ไข แต่การซ่อมแซมแก้ไขพื้นไม้แข็งนั้น จะต้องรู้สิ่งสำคัญ 7 อย่างต่อไปนี้

1.พื้นไม้สกปรกเพราะฝุ่น : แน่นอนว่าฝุ่น ผง ทำให้พื้นห้องสกปรก และทิ้งไว้นาน ก็กลายเป็นคราบที่ขจัดออกไปได้ยาก ทำให้ดูเหมือนพื้นเสีย แต่จริง ๆ แล้ว แค่ขัดพื้นเสียใหม่ ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว ไม่ถึงกับต้องเปลี่ยนพื้น

2.การทำความสะอาดพื้นแบบล้ำลึกทำได้ง่ายกว่าที่คิด : การทำความสะอาดแบบล้ำลึกนั้น สามารถทำได้โดยเริ่มจากการใช้ไม้กวาดกวาดพื้น เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกบนผิวเนื้อไม้ออกไปก่อน ตามด้วยการดูดฝุ่นเพื่อขจัดคราบสกปรกที่เกาะติดแน่น และฝุ่นตามมุมห้องออก จากนั้นก็ให้ใช้ไม้ถูพื้น เลือกผ้าไมโคร ที่มีความสามารถในการทำความสะอาดพื้นไม้แข็งได้ดี จุ่มน้ำยาทำความสะอาด โดยผสมน้ำ น้ำส้มสายชู และน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นสบู่อ่อน ๆ ลงไป จะช่วยให้ทำความสะอาดได้หมดจดขึ้น และให้เน้นในจุดที่มีการเดินเข้าออกบ่อย ๆ แต่หากทำความสะอาดในขั้นตอนเหล่านี้แล้ว พื้นยังดูไม่หมดจดดี ก็ให้เรียกมืออาชีพ ที่มีเครื่องขัดพื้นมาขัด จะได้พื้นที่สะอาดเหมือนใหม่ และเมื่อทำความสะอาดอย่างล้ำลึกแล้ว ต่อไปก็ให้ทำความสะอาดเป็นประจำด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่น และไม้ถูพื้น อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ การทำความสะอาดชุดใหญ่ ให้ทำทุกเดือน ส่วนการขัดโดยมืออาชีพให้ทำทุกปี

3.แก้ไขพื้นที่เสียหายได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษทรายขัด : หากลองทำความสะอาดแล้ว ยังดูไม่ดี พื้นยังขาดความเงางาม สามารถทำให้ดูดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องใช้กระดาษทรายขัด แต่ให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์พวกชุดปรับเปลี่ยนพื้นไม้ และพื้นลามิเนต ผลิตภัณฑ์พวกนี้จะเพิ่มความเงางามให้กับพื้น โดยไม่ทำให้พื้นเปลี่ยนสี อีกทั้งยังแห้งเร็วภายใน 24 ชั่วโมงอีกด้วย

4.กรณีที่มีความเสียหายมากอาจแก้ไขอย่างเร็วด้วยวิธีข้างต้นไม่ได้ : กรณีที่พื้นไม้แห้ง และแตก หรือมีช่องโหว่ ก็ต้องการการซ่อมแซมที่ยากขึ้น เช่นจะต้องมีการขัด การปะ การขจัดคราบ และการเคลือบ ซึ่งในกรณีนี้ต้องใช้เวลาและขั้นตอนที่มากขึ้น และควรปรึกษามืออาชีพ

5.การอุดช่องโหว่ตามพื้นไม้ : ในการที่เราจะซ่อมพื้นไม้ที่แตก มีช่องโหว่นั้น ต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย ไม่เช่นนั้นงานที่ซ่อมไปอาจจะอยู่ไม่ทน ใช้ได้ไม่นานก็แตกเสียหายอีก เพราะไม้นั้น มีการยืดและหดตัว โดยจะหดตัวในช่วงอากาศหนาว และขยายตัว ในช่วงอากาศร้อน ดังนั้น ช่วงที่เหมาะกับการอุดช่องพื้นไม้ จึงเป็นช่วงที่อากาศมีความร้อนชื้น อย่างในช่วงฤดูร้อน

6.พื้นไม้สีเข้มจะเห็นฝุ่นผงชัดเจนกว่าสีอ่อน : เรามักจะคิดว่า สีพื้นไม้ที่เข้มอย่างสีมะฮอกกานี หรือสีโอ๊คนั้น เปื้อนยาก แต่จริง ๆ แล้ว สีเข้ม ทำให้เราสังเกตเห็นความสกปรกได้ง่ายกว่าสีอ่อน

7.ความแตกต่างระหว่างพื้นด้านกับพื้นมันเงา : แน่นอนว่าพื้นที่มีความมันเงานั้นดูดี แต่ปัจจุบันนี้พื้นด้านได้รับความนิยม โดยเฉพาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก เพราะไม่ลื่น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นในการเคลือบเงาพื้นไม้ ควรต้องทราบข้อเท็จจริงดังนี้ พื้นขัดเงา ลงแว๊ก นอกจากจะลื่นง่ายแล้ว ยังไม่ทนทาน การเคลือบเงาด้วยผลิตภัณฑ์สูตรน้ำ จึงได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าสูตรน้ำมันในปัจจุบันนี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook