7 เรื่องเช็กให้ชัวร์อีกครั้ง หลังบ้านโดนพายุ มีจุดไหนที่ต้องระวัง

7 เรื่องเช็กให้ชัวร์อีกครั้ง หลังบ้านโดนพายุ มีจุดไหนที่ต้องระวัง

7 เรื่องเช็กให้ชัวร์อีกครั้ง หลังบ้านโดนพายุ มีจุดไหนที่ต้องระวัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังกรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่าพายุโซนร้อนปาบึกจะขึ้นฝั่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ สำหรับพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากสุดคือ 6 อำเภอ ติดชายฝั่งทะเลของ จ.นครศรีธรรมราช ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอสิชล อำเภอขนอม อำเภอท่าศาลา อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร

โดยขณะนี้ได้มีการสั่งอพยพประชาชนร่วม 3 หมื่นคนใน 6 อำเภอริมทะเลไปยังศูนย์อพยพชั่วคราวของแต่ละอำเภอเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังพายุพัดผ่านนั้นยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่ถึงอย่างไรบ้านเรือนของประชาชนย่อมได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกครั้งนี้อย่างแน่นอน และเรามีคำแนะนำเรื่องการดูแลบ้านหลังบ้านต้องผ่านเหตุการณ์พายุ หรือฝนตกอย่างหนัก ซึ่งอาจเป็นคู่มือที่เป็นประโยชน์เมื่อต้องกลับไปยังบ้านของตนเอง

istockistock

1.ระมัดระวังเรื่องระบบไฟฟ้า

พายุนำฝนมาดังนั้น เมื่อน้ำเป็นสื่อนำไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต การสำรวจบ้านหลังพายุ ควรทำด้วยความระมัดระวังโดยสวมชุดที่รัดกุมที่สามารถป้องกันไฟดูดได้ และไม่ควรเปิดใช้ระบบไฟฟ้าใดๆ ทั้งสิ้น ควรรอจนกว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจเช็กระบบไฟฟ้า โดยเจ้าของบ้านอาจดึงเบรกเกอร์ไฟฟ้าลงก่อน จากนั้นติดต่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้ามาดูแลตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แช่น้ำทิ้งไว้ ควรทำให้แห้งก่อนนำกลับมาใช้ แต่ถ้าเสียหายก็ส่งซ่อมแซม

2.ระมัดระวังสัตว์มีพิษ

แม้พายุจะพัดผ่านไปแล้ว น้ำท่วมรุนแรงที่อาจจะท่วมขังหรือไม่ท่วมขังเป็นระยะเวลานาน แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังไม่แพ้เรื่องไฟฟ้าคือสัตว์มีพิษต่างๆ ที่อาจจะซ่อนอยู่ภายในมุมหรือซอกใดซอกหนึ่งของบ้าน เมื่อต้องเข้าไปรื้อค้นตามจุดต่างๆ ควรเช็กให้แน่ใจว่าบริเวณนั้นมีสัตว์มีพิษหรือไม่ หากเจอสัตว์มีพิษควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยจับ และจัดการให้เราแทนการเข้าไปจับหรือแก้ปัญหาด้วยตนเองแบบไม่ถูกวิธี เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

istockistock

3.ดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างถูกวิธี

แน่นอนว่าเมื่อพายุพัดผ่านไปบ้านใดที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้อาจรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับความเสียหาย เนื่องจากเมื่อเฟอร์นิเจอร์ไม้ถูกน้ำ ไม้ก็จะบวม หลายคนจึงหาวิธีแก้ไขด้วยการทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ไปตากแดด แต่สิ่งที่ตามมาคือไม้บิด งอ ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม่สวยเหมือนเดิม วิธีดูแลเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมคือการนำเฟอร์นิเจอร์ที่โดนน้ำตั้งไว้ในร่มให้พอมีลมพัดผ่าน เมื่อไม้แห้งดีแล้วค่อยซ่อมแซม หรือทาสีใหม่อีกครั้ง

4.ตรวจเช็กปั๊มน้ำ

ไม่แน่ใจว่าหลังเกิดพายุแล้วจะมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นเวลานานหรือไม่ เพราะถ้าปั๊มน้ำต้องแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน ดังนั้นควรตรวจสอบปั๊มน้ำและถังอัดความดัน เพราะระหว่างน้ำท่วมอาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปสร้างปัญหาให้กับปั๊มแรงดันน้ำ ทำให้เกิดการทำงานผิดปกติ ถ้าพบว่าเสียงขณะเปิดระบบการทำงานมีความผิดปกติ อาจเช็กเบื้องต้นด้วยตนเองก่อน แต่ถ้ายังมีอาการน่าเป็นห่วง ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมแซมโดยเร็ว

istockistock

5.ตรวจสอบฝ้า

บ้านที่มีลมกระโชกแรงพัดผ่านอาจทำให้หลังคาหลุด และฝ้าจะได้รับผลกระทบจากพายุฝนโดยตรง ถ้าฝ้าต้องอุ้มน้ำเกินจุดมาตรฐานอาจทำให้ฝ้าหลุดร่วงลงมาและทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับเจ้าของบ้านได้ ดังนั้นเมื่อต้องเข้าไปในบ้านหลังเกิดพายุจึงควรตรวจสอบฝ้าด้วยสายตาตนเองก่อน หากฝ้าแอ่น หรือมีคราบน้ำมาก จะต้องรื้อฝ้าเพื่อซ่อมแซม

6.เช็กการทำงานของถังแก๊ส

หากบ้านเจอพายุหนักและมีน้ำท่วมสูง ถังแก๊สอาจลอยและไปกระแทกกับส่วนอื่นๆ ของบ้านจนเกิดการรั่วซึม ดังนั้นในเบื้องต้นเมื่อต้องเข้าไปเช็กควรงดการสูบบุหรี่ เพราะประกายไฟจากบุหรี่อาจทำให้แก๊สระเบิดและเกิดความเสียหายรุนแรง นอกจากนั้นควรให้ร้านแก๊สมาตรวจสอบถังแก๊สว่าได้รับความเสียหายหรือรั่วซึมหรือไม่

istockistock

7.ตรวจเช็กถังน้ำ

นอกจากตรวจสอบปั๊มน้ำแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเลยคือถังน้ำ ถ้าเป็นถังน้ำแบบที่อยู่บนดินก็สามารถเปิดฝาถังและเช็กได้ง่ายว่าภายในถังมีสิ่งสกปรกแปลกปลอมเข้าไปในถังหรือไม่ แต่ถ้าเป็นถังน้ำแบบฝังใต้ดินอาจได้รับผลกระทบมากกว่าและตรวจเช็กได้ยาก อาจต้องเรียกให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบแทน

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook