วิธีดูแลบ้านหลังน้ำท่วม จัดการอย่างไรให้บ้านสะอาด ปลอดภัย

วิธีดูแลบ้านหลังน้ำท่วม จัดการอย่างไรให้บ้านสะอาด ปลอดภัย

วิธีดูแลบ้านหลังน้ำท่วม จัดการอย่างไรให้บ้านสะอาด ปลอดภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานี สร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในทุกๆ ด้าน ในระหว่างที่มีการช่วยเหลือ เยียวยากันนี้ เมื่อระดับน้ำค่อยๆ ลดลงสิ่งหนึ่งที่ต้องดูแลกันต่อเนื่องคือที่พักอาศัย เนื่องจากหากน้ำท่วมบ้านนานๆ จะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เราได้รวบรวมวิธีดูแลบ้านหลังน้ำท่วมมาเพื่อให้เกิดประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องดูแลบ้านจัดการบ้านหลังน้ำท่วม

istockphotoistockphoto

1.เช็กความเรียบร้อย หรือสัตว์มีพิษต่าง

เช็กก่อนว่ามีส่วนไหนในบ้านได้รับความเสียหายหลังน้ำท่วมบ้าง โดยต้องระมัดระวังว่าจะมีสิ่งใดหักพัง ชำรุด ล้ม โค่น รวมไปถึงดูด้วยว่าสัตว์มีพิษ หรือสัตว์อันตรายอยู่อาศัยในบริเวณบ้านบ้างหรือเปล่า หากพบเจอสัตว์มีพิษขนาดใหญ่เช่นงู ตะกวด ฯลฯ เราไม่ควรกำจัดเอง แต่ควรเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการดูแลให้

2.พื้นที่บ้านด้านนอก

หลังน้ำท่วมเป็นเวลานานไม่ว่าจะเป็นพื้น กำแพง สวน สนามหญ้าจะได้รับความเสียหายทั้งนั้น สำหรับพื้น ผนัง กำแพง อาจมีตะไคร่เกาะ เราสามารถขัดหรือล้างได้ตามปกติเนื่องจากเป็นพื้นที่ภายนอก ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นจะกระทบกับเฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งต่างๆ หลังทำความสะอาดแล้วปล่อยให้อากาศและลมภายนอกถ่ายเทไม่ให้ความชื้นหรือเชื้อโรคค้างอยู่

ส่วนสนามหญ้านั้นหากน้ำท่วมเป็นเวลานาน แน่นอนว่าหญ้า หรือต้นไม้ไม่น่าจะอยู่กับเราได้นานขนาดนั้น หากน้ำท่วมมิดยอดหญ้าเกินสองสัปดาห์แนะนำให้ลอกหน้าดินที่เน่าแล้วตากดินให้แห้ง พรวนดินผสมปุ๋ยคอกเพื่อเตรียมลงหญ้าใหม่ แต่ถ้าไม่ท่วมมิดยอดหญ้า ยังสามารถตัดหญ้าใหม่เพื่อให้มันสามารถแตกได้ตามธรรมชาติ

istockphotoistockphoto

3.พื้นที่ด้านในตัวบ้าน

ไม่ว่าจะเป็นผนัง หรือพื้นด้านในนั้นกักเก็บความชื้นได้ดีกว่าพื้นที่ด้านนอก เนื่องจากไม่สามารถระบายอากาศได้ดีเท่าพื้นที่ด้านนอก หลังจากขัดทำความสะอาดพื้นที่ด้านในแล้ว หลายคนอาจรู้สึกอยากทาสีใหม่เพื่อทำให้บ้านกลับมาน่าอยู่สวยงาม แต่การทาสีใหม่เลยทันทีนั้นจะทำให้สีล่อนเนื่องจากพื้นที่มีความชื้นค้างอยู่ ดังนั้นควรค่อยๆ ฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วม โดยปล่อยให้แดด ลมที่ส่องผ่านทำให้พื้นแห้งไม่สะสมความชื้นกับเชื้อโรคไปก่อน

4.การทำความสะอาด

สามารถลงมือทำความสะอาดด้วยตนเองก็ได้ หรือจ้างบริษัทรับทำความสะอาดทำความสะอาดภายนอกบ้าน

  • ฉีดน้ำล้าง ขัดตะไคร่ หรือสิ่งสกปรกออก โดยใช้น้ำยาทำความ สะอาดต่างๆ หรือน้ำยาล้างจาน
  • ฉีดน้ำล้างออก แล้วทิ้งให้แห้ง
  • หากพบเชื้อรา ห้ามฉีดน้ำ ให้ใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาซักผ้า ขาวที่ผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ถ้วย (300 มิลลิลิตร) ต่อน้ำ ประมาณ 3.8 ลิตร เช็ดคราบเชื้อรา ทิ้งไว้ 15 - 30 นาที แล้ว จึงล้างออกด้วยน้ำ

ทำความสะอาดภายในบ้าน ได้แก่ หน้าต่าง ประตู 

  • เช็ดทำความสะอาด ขัดตะไคร่ หรือสิ่งสกปรกออก (ถ้ามี) โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ หรือน้ำยาล้างจาน
  • เช็ดด้วยน้ำสะอาด แล้วทิ้งให้แห้ง l หากพบเชื้อรา ให้ใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาซักผ้าขาวที่ ผสมน้ำ ในอัตราส่วน 1 ถ้วย (300 มิลลิลิตร) ต่อน้ำ ประมาณ 3.8 ลิตร เช็ดคราบเชื้อรา ทิ้งไว้ 15 - 30 นาที แล้วจึงเช็ดออกด้วยน้ำ

istockphotoistockphoto

ทำความสะอาดพื้น

  • พื้นไม้ เช็ดทำความสะอาดขัด ตะไคร่ หรือสิ่งสกปรกออก (ถ้ามี) โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ หรือน้ำยาล้างจาน หาก พื้นไม้ร่อนบางส่วน ควรรื้อออกเช็ดด้วยน้ำสะอาด แล้วทิ้งให้แห้ง หากพบเชื้อรา ให้ใช้ผงฟูละลายน้ำเช็ด หรือแอลกอฮอล์เช็ด คราบเชื้อราออก
  • พื้นกระเบื้อง เช็ดทำความสะอาด ขัดตะไคร่ หรือสิ่งสกปรกออก (ถ้ามี) โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดด้วยน้ำสะอาด และทำซ้ำจนสะอาด แล้วทิ้งให้แห้ง หากพบเชือรา ให้ใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาซักผ้าขาวทีผสม น้ำในอัตราส่วน 1 ถ้วย (300 มิลลิตร) ต่อน้ำประมาณ 3.8 ลิตร เช็ดคราบเชื้อรา ทิ้งไว้ 15 - 30 นาที แล้วจึงเช็ดออก ด้วยน้ำ10 กำจัดเชื้อในบ้าน...หลังน้ำท่วม
  • พื้นพรม รื้อพรมออก ควรส่งให้บริษัทที่รับซักพรมทำความสะอาดพื้น โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ หรือ น้ำยาล้างจาน ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดน้ำ เช็ดด้วยน้ำ สะอาด และทำซ้ำจนสะอาด แล้วทิ้งให้แห้ง หากพบเชื้อรา ควรตัดใจทิ้ง

ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์

  • ประเภทที่ มีผ้า เป็นส่วนประกอบ ให้ ทำความสะอาด และ เครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดน้ำได้ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง หากพบเชื้อราให้ตัดใจทิ้ง
  • ประเภทไม้ พลาสติก หรือหนัง ให้ทำความสะอาด โดยใช้น้ำยา ทำความสะอาดต่างๆ หรือน้ำยาล้างจาน ฉีดน้ำล้างออก เช็ดให้แห้ง นำไปผึ่งให้แห้ง ห้ามตากแดด เพราะอาจทำให้ไม้หรือพลาสติก เปลี่ยนรูปร่างได้หากพบเชื้อรา ให้ใช้ผงฟูละลายน้ำเช็ด หรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดคราบเชื้อราออก นำไปผึ่งให้แห้ง ห้ามตากแดด เพราะอาจทำให้ไม้หรือพลาสติกเปลี่ยนรูปร่างได้

เสื้อผ้าและอื่นๆ

  • ตรวจดูเสื้อผ้าว่ามีเชื้อราหรือไม่ หากมีเชื้อราให้ทิ้งไป หากไม่มีเชื้อราแต่มีกลิ่นอับชื้น ให้ซักล้าง 2 – 3 ซ้ำ แล้วลวกด้วยน้ำร้อน
  • เครื่องปรับอากาศ ให้ ทำความสะอาดด้วยน้ำ ยาทำความสะอาด เช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด ทำให้แห้ง หากพบเชื้อรา ให้เช็ดภายนอกด้วยแอลกอฮอล์ เมื่อ แห้ง แล้วถอดแผ่นกรองออก แล้วนำแยกไปเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ แล้วให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด เช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด ทำให้แห้ง ยังไม่ควรเปิดใช้งาน โดยตรวจสอบและสังเกตว่ามีเชื้อรา หรือมีกลิ่นหรือไม่ l เพดาน หากน้ำท่วมขังในบ้านเป็นเวลานาน
  • เพดานที่ทำด้วยฝ้าอาจเปื่อยยุ่ยและถล่มลงมาได้ ควรรื้อทิ้ง
  • จาน ชาม ที่ถูกน้ำท่วม ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานและล้างในน้ำยาซักผ้าขาวที่ผสมน้ำ ในอัตราส่วน 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร)ในน้ำ 3.8 ลิตร และล้างด้วยน้ำสะอาด (ดูเพิ่มเติมในแนวทางการทำความสะอาด)

istockphotoistockphoto

จากนั้นปล่อยให้แห้ง

  • พยายามระบายอากาศออกให้มากที่สุด อาจใช้อุปกรณ์ช่วยเพิ่ม เช่น พัดลมเครื่องเป่าลมร้อน อาจใช้เวลา 1 - 3 วัน
  • ทดสอบว่าภายในบ้านแห้งแล้ว โดยใช้พลาสติกขนาด 1 เมตร X 1 เมตร ปิดทับบนพื้น ใช้เทปปิดโดยรอบ ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากยังมีละอองน้ำเกาะที่พลาสติกด้านใน ให้เปิดระบายอากาศ อาจใช้พัดลมช่วยและทำการทดสอบซ้ำ จนกระทั่งไม่มีละอองน้ำเกาะที่พลาสติกด้านใน14 กำจัดเชื้อในบ้าน...หลังน้ำท่วม

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook