อัปเดต 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563 ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแห่งอนาคต

อัปเดต 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563 ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแห่งอนาคต

อัปเดต 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563 ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแห่งอนาคต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ ผู้คนทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจกับการอัปเดตเทรนด์ฮิตรอบๆ ตัว เพื่อให้ตัวเองไม่ตกเทรนด์ และมีการปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์แฟชั่น เทรนด์สุขภาพ เทรนด์เทคโนโลยี รวมถึงเทรนด์บ้านและที่อยู่อาศัย “เอสซีจี” ในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างครบวงจร จึงได้รวบรวม 3 เทรนด์บ้านมาแรงปี 2563 ที่จะมาตอบโจทย์การอยู่อาศัยในอนาคตระยะยาว เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่เป็นพื้นที่ในการใช้ชีวิต จึงควรสร้าง หรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้าน ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านการอยู่อาศัยของสมาชิกทุกคนในระยะยาว

1.เทรนด์บ้านอีโค (Eco and Sustainable Living) คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมนำแนวคิดนี้มาใช้ในการปรับบ้านให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ประหยัดพลังงาน และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสมาชิกภายในบ้าน โดยเทรนด์นี้เจ้าของบ้านสามารถนำเทคโนโลยีต่างๆ มาเสริมให้บ้านมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ได้แก่

  • บ้านพลังงานทางเลือก ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้พลังงานสะอาดแทนการใช้ไฟฟ้า
  • บ้านประหยัดพลังงานและลดมลพิษในอากาศ โดยติดตั้งนวัตกรรมระบบถ่ายเทอากาศ Active AIRflow™ System ที่ช่วยสร้างกลไกการถ่ายเทอากาศ และระบายความร้อนออกจากตัวบ้าน และโถงใต้หลังคา ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ 2-5 องศา และกว่า 10 องศา ในโถงหลังคา หรือติดตั้งระบบปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้อง หรือ Well AIR ช่วยลดปริมาณอากาศที่ไม่ดี และป้องกันมลภาวะต่างๆ ภายในห้อง หรือติดตั้งฉนวนกันความร้อน เพื่อช่วยสกัดกั้นความร้อนจากหลังคาเข้าสู่ตัวบ้าน และสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 95% เป็นต้น
  • บ้านสีเขียว เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีส่วนประกอบของวัสดุเหลือใช้ อาทิ กระเบื้องปูพื้น ที่มีส่วนประกอบเป็นเศษดิน และเศษเซรามิก หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลจากเศษเถ้าลอยและหินฝุ่นแทนวัสดุจากธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งวัสดุก่อสร้างเหล่านี้ไม่เพียงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงมีมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยด้วย

2.เทรนด์บ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว (Universal Living) เป็นเทรนด์ที่ตอบแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ และการอยู่ร่วมกันของคนหลายเจนเนอเรชัน จึงเป็นบ้านที่มีดีไซน์ หรือการปรับพื้นที่ใช้สอยให้รองรับไลฟ์สไตล์ของคนหลากหลายวัย  เช่น

  • จัดสรรพื้นที่ส่วนตัวให้เหมาะกับสมาชิกภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ โดยการปรับพื้นที่บ้านให้เหมาะกับลักษณะทางกายภาพ และสมรรถภาพของผู้สูงอายุ ดังนี้ ปรับพื้นที่บ้านให้ราบเสมอกัน, ติดตั้ง DoCare Protect อุปกรณ์ Smart Home เพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง, ติดตั้งลิฟท์บันได, ติดราวทรงตัวในห้องน้ำ เป็นต้น สำหรับบ้านที่มีเด็ก แนะนำให้สร้างสรรค์ห้องนอนให้เสริมจินตนาการ โดยใช้สีที่สดใส หรือตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายที่ลูกๆ ชื่นชอบ ใช้สุขภัณฑ์ รุ่นที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก เป็นต้น รวมถึงภายในบ้านควรปูพื้นด้วยไวนิลลดแรงกระแทก และใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมุมมน เพื่อลดการชนกระแทก
  • สร้างพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้คนหลายเจนเนอเรชันอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เช่น นำวัสดุตกแต่งผนังสำหรับดูดซับเสียง รุ่น Zandera  ไปตกแต่งผนังห้องนั่งเล่น, ห้องโฮมเธียเตอร์ หรือห้องซ้อมดนตรีสำหรับลูกๆ เพื่อลดเสียงก้องภายในห้อง และป้องกันไม่ให้เสียงทะลุไปรบกวนสมาชิกคนอื่นๆ ภายในบ้าน  หรือตกแต่งภูมิทัศน์รอบบ้านสำหรับไว้พักผ่อนหย่อนใจ หรือจัดปาร์ตี้นอกบ้าน โดยสร้างพื้นที่นั่งเล่นกลางสวน ใช้บล็อกปูพื้นทางเดินในสวน รวมถึงปลูกต้นไม้ และดอกไม้เพิ่มความสดชื่น
  • ปรับพื้นที่การใช้งานให้คุ้มค่า หากบ้านมีพื้นที่ภายในที่จำกัด การปรับพื้นที่ให้สามารถใช้ได้หลากหลายฟังก์ชันจึงเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ดี เช่น การปรับห้องครัว และห้องทานอาหารให้ใช้งานร่วมกัน โดยปรับเคาน์เตอร์ครัวออกแบบเป็นรูปทรงตัวยู เสริมด้วยเก้าอี้ทรงบาร์อีกด้านเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทานข้าว หรือนั่งจิบกาแฟ

3.เทรนด์บ้านอัจฉริยะ (Smart Living) ปัจจุบันเริ่มมีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มฟังก์ชันให้กับบ้าน ยกระดับการอยู่อาศัยภายในบ้านให้สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบสั่งการอัตโนมัติผ่าน
แอปพลิเคชัน ระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบเปิดปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติ ระบบล็อคอัตโนมัติ กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือหุ่นยนต์ต้อนรับ เป็นต้น ซึ่งเอสซีจี ในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง ได้มีการพัฒนานวัตกรรมสินค้าสำหรับการอยู่อาศัย อาทิ ระบบโซลาร์รูฟ ระบบ Well AIR ระบบ DoCare Protect เป็นต้น ควบคู่กับการนำเทคโนโลยี IoT และ AI มาผสานเข้ากับระบบของสินค้าต่างๆ รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม "Smart Living Solution" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวมนวัตกรรมสินค้าเพื่อการอยู่อาศัยของเอสซีจี และเชื่อมต่อระบบการทำงานไว้ในที่เดียว เพื่อยกระดับการแสดงผลการทำงานโดยรวมของบ้านผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่เจ้าของบ้านยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี

นอกจากเทรนด์บ้านเหล่านี้ ยังสำรวจพบว่าเจ้าของบ้านยุคดิจิทัลเกือบ 100% เริ่มต้นหาข้อมูลจากโลกออนไลน์ ทั้งหาเทรนด์บ้าน ผู้รับเหมา ประเมินราคา ข้อมูลวัสดุก่อสร้าง ควบคู่ไปกับการไปหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้างเพื่อหาสินค้าที่ต้องการ หรือเจ้าของบ้านบางคนอาจสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook