ความแตกต่างของ “เปปเปอร์มินต์” และ “สเปียร์มินต์” และการนำมาใช้ประโยชน์ของคนญี่ปุ่น
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/wo/0/ud/43/219041/219041-thumbnail.jpgความแตกต่างของ “เปปเปอร์มินต์” และ “สเปียร์มินต์” และการนำมาใช้ประโยชน์ของคนญี่ปุ่น

    ความแตกต่างของ “เปปเปอร์มินต์” และ “สเปียร์มินต์” และการนำมาใช้ประโยชน์ของคนญี่ปุ่น

    2020-06-23T19:05:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    หลายคนคงรู้จักมินต์หรือเมนทอลจากยาดม ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นในบ้านและห้องน้ำ และยาสีฟัน เป็นต้น ซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัดจากมินต์ แม้ว่าจะมีมินต์หลากหลายสายพันธุ์ แต่ในญี่ปุ่นมีมินต์ 2 สายพันธุ์หลักๆ ได้แก่ เปปเปอร์มินต์และสเปียร์มินต์ ซึ่งมีลักษณะและการนำมาใช้ประโยชน์แตกต่างกัน มารู้จักมินต์ทั้ง 2 ชนิดและการนำมาใช้ประโยชน์ของคนญี่ปุ่นกันนะคะ

    1.เปปเปอร์มินต์ (Japanese peppermint)

    เปปเปอร์มินต์มีใบที่มีขอบใบเป็นฟันคล้ายเลื่อย เส้นใบเรียงตัวกันชัดเจนเหมือนใบไม้ทั่วไป ใบมีกลิ่นหอมเมนทอลแรงมาก

    ประโยชน์เปปเปอร์มินต์

    เปปเปอร์มินต์มีส่วนประกอบของเมนทอลสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีประโยชน์มากมายดังนี้คือ ช่วยสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกาย โดยมีการนำมินต์ชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมของลูกอมและหมากฝรั่ง ช่วยเสริมการไหลเวียนที่ดีของเลือด ช่วยในระบบการย่อยอาหาร ช่วยลดอาการคออักเสบ ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและคลายเครียด ป้องกันยุงและแมลงจากการใช้เป็นส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากมินต์ น้ำ และเอทานอล ใช้ในการขจัดสิวเนื่องจากมินต์มีสารต้านการเจริญของแบคทีเรียที่เจริญบนผิวหน้าและผิวหนัง นอกจากนี้มินต์ยังประกอบไปด้วยโพลีฟีนอลที่ช่วยกดการบวมของเยื่อเมือกบุผิวซึ่งเกิดจากการแพ้ และช่วยป้องกันและรักษาอาการภูมิแพ้จากละอองเกสรได้ เป็นต้น

    2. สเปียร์มินต์ (Spearmint)

    สเปียร์มินต์เป็นมินท์ที่คนญี่ปุ่นใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ ใบของมินต์ชนิดนี้จะคล้ายกับปลายหอกตามชื่อ ขอบใบมีลักษณะคล้ายฟันเลื่อย เส้นใบเป็นร่างแห และมีกลิ่นหอมน้อยกว่าเปปเปอร์มินต์

    ประโยชน์ของสเปียร์มินต์

    กลิ่นหอมของสเปียร์มินต์นั้นมีส่วนผสมของคาร์โวน (Carvone) 60 เปอร์เซ็นต์ ลิโมนีน (Limonene) 10 เปอร์เซ็นต์ และเมนทอลเพียง 0.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้สเปียร์มินต์มีกลิ่นหอมละมุนมากกว่าเปปเปอร์มินต์ โดยทั่วไปคนญี่ปุ่นนำมินต์ชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมของขนมหลากหลายชนิด ไอศกรีม สาเก หมากฝรั่งและยาสีฟัน เป็นต้น มินต์ชนิดนีมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดอาการปวดท้องจากแก๊สในระบบทางเดินอาหาร บรรเทาความเหนื่อยล้า วิงเวียนปวดศีรษะและคลื่นไส้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยป้องกันไม่ให้ปากเหม็น และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ เป็นต้น

    วิธีการนำมินต์มารับประทาน

    ชามินต์

    วิธีทำชาจากมินต์ทำได้ง่ายๆ โดยการนำใบมินต์มาต้มในน้ำร้อน ชาร้อนๆ จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นและทำให้ใจสงบ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดดี

    ใส่น้ำดื่ม

    เพียงแช่มินต์ในน้ำดื่ม สารโพลีฟีนอลในมินต์จะละลายออกมาในน้ำ วิธีการดื่มแบบนี้จะช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้จากละอองเกสรได้ดี

    รับประทานสดกับสลัดหรือขนมหวานต่างๆ

    นอกจากการนำมารับประทานแล้ว ก็ยังมีการนำน้ำมันหอมระเหยจากมินต์มาใช้ทาหรือผสมน้ำอาบเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าและสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกายด้วย

    ได้รู้จักเปปเปอร์มินต์และสเปียร์มินต์แล้ว ต่อไปเวลาไปหาซื้อมินต์หรือน้ำมันหอมระเหยจากมินต์จะได้ซื้อมาตรงประโยชน์ที่ต้องการใช้นะคะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าสะระแหน่ที่ปลูกได้มากที่บ้านเราคือมินต์ชนิดไหน คำตอบคือ เป็นพืชในตระกูลที่คล้ายกับสเปียร์มินต์ค่ะ