เคล็ดลับ “ผ่อนหนี้บ้าน” ผ่อนยังไงให้หมดเร็วทันใจ

เคล็ดลับ “ผ่อนหนี้บ้าน” ผ่อนยังไงให้หมดเร็วทันใจ

เคล็ดลับ “ผ่อนหนี้บ้าน” ผ่อนยังไงให้หมดเร็วทันใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนที่เป็นหนี้สินเชื่อบ้าน ก็จะรู้เลยว่าหนี้บ้านเป็นหนี้ที่ยาวนานที่สุด และดอกเบี้ยเยอะมากที่สุด เพราะฉะนั้นวันนี้เรามีเทคนิคการทำให้สินเชื่อบ้านของคุณไม่ต้องผ่อนยาวนาน ด้วยหลักเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนโปะทีละเยอะ ๆ แล้วเราก็จะได้มีบ้านที่เป็นของตัวเองจริง ๆ ในเร็ววัน

1. จ่ายมากกว่าค่างวดที่ธนาคารกำหนดในแต่ละเดือน ทีละน้อย

สินเชื่อบ้านนั้น ค่าผ่อนแต่ละเดือนส่วนมากที่ตัดเข้าเป็นดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีเงินหลักพันสองพัน เราก็สามารถนำไปจ่ายสินเชื่อบ้าน เพื่อตัดเงินต้นให้ค่อย ๆ น้อยลงเรื่อย ๆ หรือเรียกว่าการโปะนั่นเอง ค่อย ๆ โปะทุกเดือนทีละน้อยก็ทำให้ดอกเบี้ยบ้านของเราลดลงมหาศาล

2. พยายามโปะบ้านในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำ

ปกติเวลาที่กู้บ้านส่วนใหญ่ ดอกเบี้ยจะต่ำใน 3 ปีแรก และเป็นอัตราคงที่ เพราะฉะนั้นนี่คือเวลาทองของเราในการค่อย ๆ โปะเงินเข้าไปมากกว่าค่างวดในแต่ละเดือน เพื่อให้ภาระหนี้หมดได้เร็วขึ้น และเสียดอกเบี้ยน้อยอีกด้วย

3. รีไฟแนนซ์ (Refinance) หรือขอปรับอัตราดอกเบี้ยผ่อนบ้านหรือคอนโดกับธนาคารเดิม (Retention) ทุก ๆ 3 ปี

เมื่อครบกำหนดที่ธนาคารกำหนดไว้ ว่าหลังจากช่วงนี้สามารถรีไฟแนนซ์ได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ให้ลองมองหา ธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่า แล้วทำการรีไฟแนนซ์ หรือถ้าคุณไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้ ให้ลองคุยกับธนาคารเดิม ขอทำการรีเทนชั่น เพื่อลดดอกเบี้ยให้เท่ากับ 3 ปีแรก

4. โปะบ้านแบบใหม่ ถอนเงินที่โปะไปเมื่อไหร่ก็ได้

นี่เป็นข่าวดีที่หลายคนยังไม่รู้ เพราะมีธนาคารเพียงไม่กี่ธนาคารเท่านั้นที่มีบริการแบบนี้ เพราะปกติเราต้องโปะเงินก้อน เพื่อทำให้สินเชื่อบ้านลดลง แต่เท่ากับว่าเงินก้อนนั้นก็จะไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกเลย เช่น สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของธนาคาร Tisco มีสินเชื่อแบบพิเศษที่เรียกว่า TISCO MORGAGE LOAN ซึ่งออกมาสักพักแล้ว โดยสินเชื่อลักษณะนี้เราสามารถนำเงินที่เราต้องการจะโปะบ้านมาฝากกับธนาคาร โดยธนาคารจะแบ่งเงินเป็น 2 บัญชี คือ บัญชีสินเชื่อกับบัญชีเงินพร้อมใช้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ คือ หากเรามีเงินส่วนสินเชื่อบ้านอยู่ 2,000,000 บาท และเงินก้อนเป็นส่วนที่อยู่ในบัญชีพร้อมใช้ของ Tisco 500,000 บาท ธนาคารจะคำนวณเงินต้นที่ใช้คำนวณดอกเบี้ยแค่ 1,500,000 บาท โดยที่เงินส่วนพร้อมใช้ก็สามารถถอนออกมาได้เมื่อจำเป็นต้องใช้เงิน เพราะธนาคารจะคำนวณดอกเบี้ยบ้านแบบรายวัน ตามจำนวนเงินที่คงเหลือในบัญชีเหลือใช้เมื่อหักกับบัญชีสินเชื่อ 

หากเราฝากเงินก้อนไปพร้อม ๆ กับการผ่อนค่างวดมากกว่าปกติ ก็ยิ่งจะทำให้เงินต้นของเราลดลงเร็วมากยิ่งขึ้น และหนี้สินเรื่องบ้านอาจจะไม่ใช่ภาระหนักอกอีกต่อไป ถ้าเรารู้จักศึกษาหาข้อมูล รวมทั้งการหมั่นอ่านความรู้ทางการเงินเพื่อเสริมทักษะการบริหารทั้งเงินและหนี้สินด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook