เทคนิคที่ร้านขายดอกไม้ในญี่ปุ่นใช้ เพื่อยืดอายุดอกไม้ในแจกันให้สวยสดชื่นไปนานๆ

เทคนิคที่ร้านขายดอกไม้ในญี่ปุ่นใช้ เพื่อยืดอายุดอกไม้ในแจกันให้สวยสดชื่นไปนานๆ

เทคนิคที่ร้านขายดอกไม้ในญี่ปุ่นใช้ เพื่อยืดอายุดอกไม้ในแจกันให้สวยสดชื่นไปนานๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดอกไม้มักจะสร้างความสดชื่นให้แก่บ้านเรือน และสร้างความสุขให้แก่ผู้รับ โดยเฉพาะหากคนที่ให้เป็นคนสำคัญ เราก็อยากจะเก็บดอกไม้ให้สวยสดไปนานๆ มารู้วิธีการยืดอายุดอกไม้ให้สวยทนจากผู้เชี่ยวชาญของร้านขายดอกไม้ดังในญี่ปุ่นกันนะคะ

หลากหลายเทคนิคเพื่อยืดอายุดอกไม้

มีเทคนิคหลากหลายในการยืดอายุดอกไม้และข้อควรระวังในแต่ละเทคนิคดังนี้

ใส่เหรียญ 10 เยนลงไปในแจกัน

โดยปกติก้านดอกไม้จะดูดเอาน้ำจากแจกันเพื่อช่วยคงความสดของดอกไม้ อย่างไรก็ดี หากน้ำในแจกันสกปรกจากการเจริญของจุลินทรีย์ ก็จะทำให้โคนก้านเป็นเมือกและขัดขวางการดูดน้ำไปที่ดอกได้ การใส่เหรียญ 10 เยนลงไปในแจกันจะช่วยยืดอายุของดอกไม้ได้ เนื่องจากเหรียญ 10 เยน มีส่วนประกอบของแร่ธาตุทองแดง ซึ่งจะไปกดการเจริญของราและแบคทีเรียได้ อย่างไรก็ดี การใส่เหรียญ 10 เยน ไว้ในน้ำเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เหรียญกร่อนได้

เติมน้ำยาซักผ้าขาวหรือน้ำส้มสายชู

น้ำยาซักผ้าขาวและน้ำส้มสายชูจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเจริญของราและแบคทีเรีย ทำให้น้ำไม่ขุ่น ส่งผลให้ก้านดอกดูดน้ำส่งไปยังดอกได้ดี การใช้น้ำยาซักผ้าขาวเพื่อยืดอายุดอกไม้ทำได้โดยหยดน้ำยาซักผ้าขาว 1 หยด ลงไปในน้ำ 300 มิลลิลิตร หรือเติมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชาลงไปในน้ำ 200 มิลลิลิตร แต่ไม่ควรใช้น้ำยาซักผ้าขาวหรือน้ำส้มสายชูที่มีความเข้มข้นสูงกว่าที่กล่าวมา เพราะจะทำให้ดอกไม้เหี่ยวได้

ใส่น้ำตาลและเครื่องดื่มโซดาที่ไม่มีสี

น้ำตาลจะกลายเป็นสารอาหารที่ช่วยยืดอายุดอกไม้ได้ วิธีเตรียมทำได้โดยการละลายน้ำตาล 1 ช้อนชา ลงในน้ำ 200 มิลลิลิตร นอกจากนี้ยังสามารถใช้เครื่องดื่มโซดาที่มีรสหวานในอัตราส่วนของน้ำ 5 ส่วน ต่อโซดา 1 ส่วน น้ำตาลในเครื่องดื่มโซดาจะเป็นส่วนผสมของฟรุกโตสและกลูโคส ซึ่งก้านดอกไม้จะดูดเอาน้ำตาลเหล่านี้ไปยังดอกไม้ได้ง่าย อย่างไรก็ดีเมื่อมีสารอาหาร ก็จะส่งเสริมให้จุลินทรีย์เจริญได้ง่าย ดังนั้นต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำในแจกัน หมั่นตัดปลายก้านดอกไม้ออก และเติมน้ำยาซักผ้าขาวลงไปเล็กน้อย เพื่อป้องกันการเจริญของแบคทีเรียและรา

ใส่สารถนอมดอกไม้

การใส่สารถนอมดอกไม้ที่หาซื้อได้ตามร้านขายดอกไม้ลงไปในน้ำ จะช่วยยืดอายุของดอกไม้ให้นานขึ้น

วิธีการง่ายๆ ที่ช่วยยืดอายุของดอกไม้ในแจกันที่บ้าน

วิธีการดังกล่าวข้างต้นอาจจะยุ่งยากที่ต้องตวงวัดปริมาตรของวัตถุดิบเพื่อช่วยยืดอายุของดอกไม้ สำหรับวิธีการง่ายๆ ที่คนญี่ปุ่นทั่วไปใช้เพื่อยืดอายุของดอกไม้ที่ปักแจกันที่บ้านมีดังนี้คือ

ตัดก้านดอกไม้ในน้ำ

สิ่งที่ควรใส่ใจตั้งแต่เริ่มต้นก่อนนำดอกไม้มาใส่แจกัน คือ การตัดก้านดอกไม้ที่ได้รับหรือซื้อมาใหม่ๆ ในน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศที่อยู่โคนก้านเคลื่อนที่เข้าไปในก้านดอกและไปอุดกั้นน้ำที่จะขึ้นไปเลี้ยงดอกไม้

ล้างแจกันให้สะอาดก่อนใช้

แจกันที่สกปรกจะมีเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ติดอยู่ ซึ่งทำให้น้ำในแจกันเน่าเสียเร็ว การล้างทำความสะอาดแจกันให้สะอาดจึงเป็นกุญแจสำคัญในการคงความสวยสดชื่นของดอกไม้ไว้ให้นาน

ระดับน้ำที่เติมลงในแจกัน

เวลาเติมน้ำลงไปในแจกันก็ต้องคำนึงถึงชนิดของดอกไม้ด้วย หากเป็นดอกไม้ก้านแข็งหรือดอกไม้ที่ยังเป็นดอกตูม เช่น กุหลาบก็ให้ใส่น้ำไว้ในแจกันเยอะหน่อย แต่หากเป็นดอกไม้ที่มีกลีบและก้านอ่อน เช่น เยอบีร่า เป็นต้น ก็ให้ใส่น้ำน้อยเพื่อจะไม่ทำให้ก้านดอกเน่าเร็ว

ตัดใบออก

ข้อควรระวังของการนำดอกไม้ปักแจกันคือ ไม่ควรให้ใบไม้แช่อยู่ในน้ำ เพราะจุลินทรีย์ที่ใบจะเจริญในน้ำได้ง่าย ดังนั้นควรใช้กรรไกรสะอาดตัดเอาใบออกก่อนที่จะปักก้านดอกไม้ลงในแจกัน

ตัดโคนก้านดอกไม้ทุกวัน

การตัดโคนก้านดอกไม้ออกวันละประมาณ 1 เซนติเมตรในลักษณะเฉียงประมาณ 45 องศา จะช่วยยืดอายุดอกไม้ได้ เนื่องจากก้านดอกจะดูดน้ำไปเลี้ยงดอกได้มากตามปกติ

วางแจกันไว้ในที่เย็นและอากาศถ่ายเทได้ดี

อีกปัจจัยที่ช่วยยืดอายุของดอกไม้ในแจกันได้ดีคือ การหาที่วางที่เย็นสบายและอากาศถ่ายเทได้ดี อีกทั้งไม่ควรวางไว้ในที่โดนแสงแดดโดยตรงและใต้เครื่องปรับอากาศ เพราะความร้อนและลมจะทำให้ดอกไม้เหี่ยวและกลีบร่วงได้ง่าย

เปลี่ยนน้ำในแจกันทุกวัน

หลักการสำคัญของการยืดอายุดอกไม้ในแจกันให้สวยสดได้นานคือ น้ำสะอาด การเปลี่ยนน้ำในแจกันและล้างแจกันทุกวันจะช่วยป้องกันการเจริญของราและแบคทีเรีย ทำให้ก้านดอกไม้ดูดน้ำเข้าไปเลี้ยงดอกได้ดี

แม้จะมีวิธีการที่ละเอียดต้องหมั่นใส่ใจทุกวัน แต่ก็คุ้มค่ากับการคงความสวยสดชื่นของดอกไม้ช่อโปรดที่ได้รับจากคนสำคัญหรือซื้อมาประดับบ้านเอง ทั้งนี้หากดอกไม้เริ่มเหี่ยวก็นำมาทำดอกไม้แห้งไว้ประดับบ้านได้ ไว้คราวหน้าจะมาแนะนำวิธีการทำดอกไม้แห้งให้อ่านกันนะคะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook