วิธีและแผนเก็บอาหารพร้อมเสบียงจำเป็น เมื่อต้องล็อกดาวน์เข้มข้น

วิธีและแผนเก็บอาหารพร้อมเสบียงจำเป็น เมื่อต้องล็อกดาวน์เข้มข้น

วิธีและแผนเก็บอาหารพร้อมเสบียงจำเป็น เมื่อต้องล็อกดาวน์เข้มข้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในอดีตการสะสมอาหาร หรือเสบียงนั้นใช้สำหรับช่วงฤดูหนาว หรือในยามคับขัน แต่ในปัจจุบันอย่างเช่นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น อาจทำให้หลายคนเริ่มคิดที่จะตุนอาหาร และของใช้จำเป็น เผื่อจะมีการประกาศให้ล็อกดาวน์ งดการเดินทางออกจากบ้าน เราจึงมีวิธีเก็บอาหาร และเสบียงต่างๆ ไว้เมื่อถึงเวลาฉุกเฉิน

1.วางแผนว่าจะจัดเก็บอย่างไร

ลองนึกภาพว่าถ้าคุณพบว่าอาหารที่คุณเก็บตุนไว้เน่าเสีย ดังนั้นสิ่งจำเป็นคือต้องยืดอายุของอาหารและเสบียงให้ได้นานที่สุด ความมืด หลีกเลี่ยงแสงแดด ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกจุดที่มืดไม่มีแสง หรือจะใช้วิธีคลุมสิ่งของที่จัดเก็บในภาชนะกันแสง เก็บในที่เย็น ยิ่งอุณหภูมิต่ำ อาหารก็จะยิ่งยืดอายุได้นานยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังควรเก็บในที่แห้ง เพราะความชื้นจะกระตุ้นสิ่งมีชีวิตทั้งเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียซึ่งมีส่วนทำลายอาหารด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ควรเก็บอาหารให้ห่างจากสัตว์ ศัตรูพืช สิ่งมีชีวิตที่หิวโหย ไม่ว่าจะเป็นหนู แมลง ฯลฯ

2.ทราบจำนวนที่ชัดเจน

เวลาอดอาหารหลายคนจะให้ความสำคัญกับค่าของแคลอรี่ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ตัวเลขที่น่ากลัวเพราะมันคือเชื้อเพลิงที่ช่วยให้ร่างกายของคุณทำงาน ผู้ใหญ่ที่ทำงานยุ่งอาจต้องการพลังงานมากกว่า 2,000 แคลอรี่ต่อวันเพื่อรักษาสุขภาพ ดังนั้นไม่เพียงแต่คิดว่าจะต้องซื้ออะไร คุณอาจลองคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายด้วย รวมถึงบาลานซ์สัดส่วนของทั้งโปรตีน ไขมันต่างๆ ให้เหมาะสม

3.เน้นอาหารที่อยู่ได้นาน

คงคุ้นเคยกับอาหารที่ซื้อกลับไปแล้วไม่ต้องใส่ตู้เย็น หรือแช่แข็ง เช่นของแห้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแป้ง น้ำตาล ข้าวและเกลือ นั่นยังรวมไปถึงอาหารกระป๋อง อาหารที่บรรจุในขวดโหล ซึ่งอาจต้องใช้ให้หมดหลังจากเปิดฝา รวมไปถึงขนมขบเคี้ยว คุกกี้ เครกเกอร์ มันฝรั่งทอด สิ่งเหล่านี้สามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือนในอุณหภูมิห้องโดยไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพียงแค่ให้หลีกเลี่ยงความร้อน แสง และความชื้น

4.รวบรวมประเภทสินค้ากระป๋อง

สินค้าประเภทกระป๋องนั้นมีความหลากหลาย แต่อาหารกระป๋องนั้นมักขาดวิตามินซี เนื่องจากผ่านการใช้ความร้อนสูงที่ใช้ในการบรรจุ อีกทั้งอาหารกระป๋องเหล่านี้มักมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 5 ปี และอาหารส่วนใหญ่มักพร้อมรับประทานทันทีที่นำออกจากภาชนะ เวลาเลือกซื้อควรพิจารณาสภาพของกระป๋อง วันหมดอายุซึ่งปกติมักจะห่างจากวันที่ผลิตประมาณ 18-24 เดือน แม้ว่าสินค้ากระป๋องส่วนใหญ่จะมีอายุ 5-10 ปีก็ตาม เพียงให้มั่นใจว่าคุณได้รับอาหารกระป๋องที่มีความหลากหลาย คุณควรอ่านฉลาก เลี่ยงอาหารจากกระป๋องที่บวมหรือขึ้นสนิมเพื่อความปลอดภัย

5.อาหารแห้ง

อาหารแห้งเป็นอาหารเพื่อการเอาชีวิตรอดของบรรพบุรุษของเรา รวมทั้งยังทำให้เรามีชีวิตรอดในราคาย่อมเยา อาหารอย่างพาสต้า ข้าว แป้ง ถั่วแห้ง และน้ำตาลนั้นง่ายต่อการจัดเก็บ อีกทั้งยังราคาไม่แพง รวมทั้งคุณยังสามารถซื้ออาหารเหล่านี้เตรียมบรรจุไว้ล่วงหน้าได้ด้วย ไม่ว่าจะบรรจุในถังพลาสติกที่มีวัสดุบุผิว หรือกระป๋องโลหะ สิ่งเหล่านี้ควรมีตัวดูดซับออกซิเจนอยู่ภายในช่วยดึงออกซิเจนออกมาและสร้างสุญญากาศในภาชนะบรรจุอาหาร จะทำให้อาหารมีอายุยืนยาวมากขึ้นโดยไม่สูญเสียคุณค่าของอาหาร

6.บรรจุภาชนะของคุณเอง

ของแห้งและอาหารอื่นๆ สามารถจัดเก็บได้อย่างปลอดภัยเป็นเวลานานในภาชนะต่างๆ เมื่อภายในนั้นบรรจุสารดูดความชื้น หรือสารดูดซับออกซิเจนที่เหมาะสม ที่อยากแนะนำคือถังบรรจุอาหารขนาด 5 แกลลอนแบบมีฝาปิด นอกจากนั้นอาจมีถุงเก็บ ตัวดูดซับออกซิเจนให้เพียงพอกับถังที่มี รวมถังสามารถทำถุงเก็บแบบที่มีขนาดเล็กลงเพื่อใช้ในการปันส่วนและการจัดเก็บแบบแยกส่วน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีตัวดูดซับออกซิเจนในทุกสิ่ง อย่างน้ำตาล น้ำผึ้ง และเกลือไม่ต้องใช้ แต่สำหรับเมล็ดพืช นมผง หรืออาหารอื่นๆ ก็มีความจำเป็นต้องใช้

7.อย่าลืมของใช้อื่นๆ

นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว อย่าลืมของใช้อื่นๆ เช่นกระดาษชำระ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่ต่างๆ เทียนไข ชุดปฐมพยาบาล พลาสเตอร์ยา ยารักษาโรคประจำตัวต่างๆ เป็นต้น

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook