8 จุดใน “บ้าน” ควรใส่ใจ ช่วยป้องกันภัยจากขโมย

8 จุดใน “บ้าน” ควรใส่ใจ ช่วยป้องกันภัยจากขโมย

8 จุดใน “บ้าน” ควรใส่ใจ ช่วยป้องกันภัยจากขโมย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าวคราวเรื่องความไม่ปลอดภัยในที่พักอาศัยของตนเองมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่หมู่บ้านราคาแพงหลักสิบๆ ล้าน หรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ภายใต้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ดัง ก็ยังมีข่าวความไม่ปลอดภัยให้เห็นกันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอันตรายที่เกิดขึ้นจากผู้รักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งผู้พักอาศัยเองก็ยากจะคาดเดา

แต่เราในฐานะเจ้าของที่พักก็ต้องหาวิธีป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ที่สุด ซึ่ง Sanook! Home ได้รวบรวมจุดสำคัญๆ ในบ้านที่เจ้าของบ้านต้องระมัดระวัง และใส่ใจให้มากเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้บ้านของเราเอง

1.เริ่มจากประตู นับเป็นหน้าด่านของบ้านหรือที่พักของเราเลยก็ว่าได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญเราต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกประตูที่ใช้วัสดุที่มีความแน่นหนา แข็งแรง ทนทาน รวมไปถึงการติดตั้งประตูกับวงกบก็ไม่ควรห่างกันเกิน 1/8 นิ้ว และบานพับประตูจะต้องอยู่ภายในอาคาร เพื่อจะได้ยากต่อการถอดออกจากด้านนอก และควรมีตาแมวไว้สำหรับส่องดูคนภายนอกจากในห้อง

สำหรับประตูที่ไม่อยากจะแนะนำให้ใช้ แต่บางบ้านหรือบางห้องก็มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่คือ ประตูเลื่อน สำหรับส่วนของประตูเลื่อนก็ควรวางไว้ในร่องหรือรางประตู ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบุกรุกอีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากประตูบานเลื่อนเป็นประตูที่งัดแงะได้ง่ายที่สุด

2.หน้าต่าง หน้าต่างเป็นอีกส่วนหนึ่งของบ้านที่จะเป็นช่องทางที่ผู้บุกรุกสามารถเข้าไปได้ง่าย ดังนั้นเราควรติดตาข่ายหรือเหล็กดัดเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แต่แนะนำให้เป็นตาข่ายหรือเหล็กดัดที่สามารถถอดได้ เพราะหากเกิดเหตุอัคคีภัยหรือฉุกเฉินเราจะได้มีทางออกมาจากทางหน้าต่างได้อย่างทันท่วงที

3.ระบบล็อค ทุกช่องทางที่สามารถเข้าสู่ตัวบ้านจะต้องมีระบบล็อคที่แน่นหนา และเราไม่ควรลืมที่จะล็อคบ้านทุกครั้งที่เราไม่อยู่ เนื่องจากสาเหตุสำคัญของการบุกรุกเกิดจากการบุกรุกผ่านประตูที่ไม่ได้ล็อค

4.กุญแจ ถือเป็นจุดเล็กๆ ที่มีความสำคัญไม่น้อย ดังนั้นเราไม่ควรซ่อนกุญแจไว้นอกบ้าน ถ้าจำเป็นต้องฝากกุญแจสำรองไว้จริงๆ ควรฝากไว้กับเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ ที่สำคัญคืออย่าฝากกุญแจไว้กับช่าง หรือคนที่มาส่งของ อย่าเขียนชื่อกำกับไว้ที่กุญแจ หรือเขียนว่ากุญแจดอกไหนควรใช้กับห้องไหน เพราะหากทำกุญแจหาย แล้วผู้เก็บได้เป็นขโมยคราวนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่

5.ของนอกบ้านก็ต้องระมัดระวัง มีของบางชิ้นที่เรานิยมวางไว้นอกบ้าน ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรเก็บสิ่งของที่เสี่ยงต่อการถูกขโมยไว้ในห้องเก็บของ หรือห้องที่สามารถล็อคได้ หรือหากคุณไม่มีห้องสำหรับเก็บสิ่งของเหล่านั้น ก็ควรหาอะไรคลุมให้มิดชิด นอกจากนี้เราไม่ควรวางพวกอุปกรณ์ที่สามารถใช้งัดแงะประตูบ้านไว้นอกบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับโจร

6.ต้นไม้รอบบ้าน หากรอบบ้านมีไม้พุ่มใหญ่ควรตัดให้มีขนาดพุ่มไม่ใหญ่จนเกินไปเนื่องจากไม้ที่มีขนาดพุ่มใหญ่จนเกินไป เนื่องจากไม้ที่มีขนาดพุ่มใหญ่มากจนเกินไป จะกลายเป็นที่ซ่อนชั้นดีของขโมย หรืออีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันโจรปีนเข้าหน้าต่างคือ บริเวณใต้หน้าต่างอาจปลูกต้นไม้ประเภทที่มีหนามแหลมไว้แทนก็ได้ เพราะโจรคงไม่กล้าปีนผ่านต้นไม้เหล่านั้นอย่างแน่นอน

7.ลวงให้เหมือนมีคนอยู่บ้าน เมื่อเราไม่อยู่บ้านควรเปิดไฟและวิทยุทิ้งไว้ แต่เราควรมีการวางแผนเรื่องการเปิดไฟ เพราะการเปิดไฟไว้ในบ้านจะดีกว่าการเปิดไฟทิ้งไว้ตามทางเดิน เนื่องจากไฟที่เปิดตามทางเดินจะทำให้ขโมยหรือผู้ไม่หวังดี สังเกตได้ง่ายว่าคนไม่อยู่บ้าน และเนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่สามารถนำมาปรับใช้กับการป้องกันบ้านได้ เช่นเครื่องเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ กล้องวงจรปิด สัญญาณกันขโมยที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ

8.อย่าเป็นคนชักจูงให้โจรเข้าบ้านเอง บางครั้งเราก็หลงลืมไปว่าโจรหรือขโมยมักจะคอยสังเกตความเป็นไปของบ้านหรือที่พักเป้าหมาย ดังนั้นเราต้องระมัดระวังไม่ล่อตาล่อใจโจรด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในบ้าน อย่างเช่นบางทีเราซื้อของใช้มาใหม่แล้วทิ้งกล่องใส่ของเหล่านั้นไว้นอกบ้าน สิ่งเหล่านี้อาจจูงใจให้โจรเข้าบ้านได้อย่างง่ายดาย เพราะพวกเขารู้ว่าเราเพิ่งซื้อของพวกนี้มาใหม่

8 จุดควรระมัดระวังเหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านของทุกคนมากขึ้นนะคะ

เรียบเรียงข้อมูลจาก https://www.facebook.com

ภาพจาก http://prepforshtf.com


 
 
 
 
 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook