"เมื่อผมแต่งบ้านในฝันด้วยตัวเอง"

"เมื่อผมแต่งบ้านในฝันด้วยตัวเอง"

"เมื่อผมแต่งบ้านในฝันด้วยตัวเอง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หายหน้าหายตาไปจากหน้าจอทีวี เพิ่งรู้ว่านักแสดงหนุ่มเต็งหนึ่ง TENG1 มีความสามารถในการออกแบบตกแต่งบ้าน แถมยังเอามาลงเป็นกระทู้ในพันทิปอีก ว่าแล้วอย่ารอช้า เห็นห้องนอนสวยๆ เก๋ๆ แบบนี้ขอตามไปดูขั้นตอนและไอเดียของเขากันหน่อย

สวัสดีครับทุกคน ผมเต็งหนึ่งนะครับ หลังจากไม่ได้มีโอกาสโพสต์อะไรเป็นเวลานานมากๆ แล้ว เพราะเนื่องจากภาระกิจที่หนักหน่วงในชีวิต รู้สึกคิดถึงการเขียนเล่าเรื่องแบบนี้มากๆ นี่น่าจะประมาณหนึ่งปีเห็นจะได้ วันนี้ผมอยากจะมาเขียนเกี่ยวกับการแต่งบ้านของตัวเองกันบ้างครับ ก็คงต่อมาจากการที่ผมอยากมีบ้านสวยๆ แล้วก็อยากมีสตูดิโอครัวเล็กๆ เพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต แบบในกระทู้เก่าที่ผมเคยเขียนไว้นั่นแหละครับ ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่าจริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนเก่งเรื่องการออกแบบอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ด้วยความที่ชอบไปในที่สวยๆดีไซน์แบบที่เราชอบบ่อยๆ หรือการหาตัวอย่างจากในอินเทอร์เน็ตก่อนนอน มันเลยเหมือนได้ซึมซับความรู้จากสิ่งรอบตัวมาเรื่อยๆ จนมีโอกาสแต่งบ้านของตัวเองจริงจังก็เลยได้ลงมือทำด้วยตัวเองแทบจะทุกขั้นตอนที่เรามีส่วนร่วม ที่สำคัญไม่ได้ใช้เงินเยอะแบบที่คิดครับ

ผมว่าข้อดีอย่างหนึ่งของการที่เรามีเป้าหมายอะไรซักอย่างในชีวิต คือการที่เราจะได้มีกำลังใจในการทำงาน เหมือนคิดเอาไว้เสมอว่า ถ้าเหนื่อยเมื่อไหร่ก็ เอาว่ะ !!! จะได้มีเงินไปทำครัว มีเงินไปแต่งบ้าน อย่างที่เรามีความสุข แค่นี้ผมก็จะมีแรงในการทำงานขึ้นเยอะเลยครับ หรือเรียกง่ายๆก็คือ เวลาเป็นหนี้นี่มันทำให้เราขยันขึ้นเป็นกองเลย 555 และตอนนี้งานส่วนใหญ่ที่ผมตั้งใจทำในช่องยูทูปของผมที่ http://www.youtube.com/teng1number1 เกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้เกือบทั้งหมด ก็ถือว่าบ้านสร้างแรงบันดาลใจเป็นอย่างดีเลยหล่ะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราไปเริ่มดูการแต่งบ้านในแบบของผมเองกันดีกว่าครับ


มาเริ่มต้นที่ห้องนอนกันก่อนนะครับ
ผมเคยฝันอยากมีห้องนอนแบบโล่งๆโปร่งๆเหมือนจะเป็นห้องที่ไม่ค่อยมีอะไรกั้นเท่าไหร่ แต่เมื่อก่อนสมัยอยู่บ้านหลังเก่า ก็เป็นบ้านจัดสรรทั่วไป ห้องนอนจะเล็กๆหน่อย จนแทบแต่งอะไรไม่ค่อยได้ พอมาเจอห้องนอนของบ้านหลังใหม่ก็ชอบมาก เพราะเป็นลักษณะทาวน์โฮม 3 ชั้น และทั้งชั้นก็เป็นห้องนอนของผม โอ้โหคราวนี้ ไอเดียต่างๆที่เคยเก็บสะสมไว้ ได้ใช้อย่างแน่นอน คราวนี้ก็เริ่มมาดูเงินในบัญชีก็พบว่า เออ... เราอาจจะทำทุกอย่างที่อยากทำไม่ได้หรอกเนอะ 555 เอาเป็นว่า ค่อยๆทำไปแต่งไป อันไหนที่อยากได้จริงๆแต่แพงก็ทำเองไปเลย มีพ่อเป็นช่างซะอย่าง (พ่อผมเคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างมาก่อนครับ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้ว แต่เรื่องงานช่างยังเก่งสุดยอดเหมือนเดิม) ก็เลยเริ่มลงมือช่วยกันทั้งบ้านเลย โดยมีพ่อเป็นคนคุมงาน ผม กับ น้องสาวเป็นคนงานก่อสร้าง ส่วนแม่ก็เป็นฝ่ายเสบียงและบัญชี (ไม่ให้บานปลาย)

เดิมทีเดียวห้องนอนเป็นห้องโล่งๆ ผนังเรียบทั่วไปเลยครับ สีผนังเป็นสีอมเขียวๆหน่อย เอาจริงๆก็ไม่ได้แย่นะครับ แต่มันดูแก่ไปหน่อย แหะๆ เราก็เลยช่วยกันก่อผนังใหม่ด้วยอิฐมอญแดง ซึ่งก็ไปซื้อมาจากแถวบางใหญ่ (แถวบ้านเก่า) ได้ในราคา 2.50 บาท ต่อก้อน รวมๆทั้งผนังด้านเดียวใช้ไปประมาณ 1,200 ก้อน สิ่งที่เน้นย้ำกับทุกคนเสมอคือ ห้ามเรียบร้อยเด็ดขาด !!!! ถ้าปูนเลอะ.... ปล่อย / ถ้าสีไม่เท่ากัน... ปล่อย  555 พ่อบอกว่าทำยากกว่าตอนทำให้เรียบร้อยซะอีก สุดท้ายมันก็ไม่เรียบร้อยไปจริงๆ 5555  เพราะพอก่อเสร็จแล้วมันมีรูโหว่ระหว่างก้อนเยอะ และต่อไปน่าจะเป็นที่เก็บฝุ่นชั้นยอดเลย ผมเลยเป็นคนเอาปูนยาแนวมาแต่งเพิ่มให้รูมันหายไป แล้วก็ทาสีขาวทับลงไปด้วยตัวเอง กว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือพัง แตกไปเลย ฮือออออ

สรุปค่าใช้จ่าย ค่าอิฐประมาณ 3,000 บาท ค่าปูน ยาแนว สี จำไม่ได้แล้ว แต่ทั้งหมดไม่เกิน 8,000 บาท ครับ



จากนั้นเราก็เริ่มทาสีผนังส่วนอื่นๆในห้องต่อไป ที่ผมไม่เลือกก่อผนังด้านอื่นๆด้วย ก็เพราะคิดว่า ถ้ามีผนังแบบนี้หลายๆด้าน มันจะเปลือง 5555 และคงทำให้อึดอัดน่าดู รอให้สีแห้ง เราก็เริ่มไปแต่งส่วนอื่นๆของห้องต่อไปกันเลย

มาถึงเตียงนอน เอาตรงๆว่าไม่ได้เป็นคนชอบคนเตียงหรูๆอะไร อีกอันในเมื่อเราอุตส่าห์ทำผนังห้องนอนใหม่แล้ว เตียงก็ไม่น่าจะต้องมีหัวเตียงอีกต่อไป บังเอิญช่วงแต่งห้องนอนเป็นตอนที่ต้องไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด แล้วขับรถผ่านร้านที่เค้าขายไม้ลังเต็มไปหมด ก็เลยคิดว่าเออเอาไม้ลังมาทำเป็นเตียงก็น่าจะดีแหะ ไม่แพงด้วย ก็เลยตัดสินใจซื้อกลับบ้านมา แต่ด้วยความที่ไม้มันหนักมากกกกก เราเลยใช่วิธีว่า ทุกครั้งที่ไปถ่ายละครที่นั่นก็จะซื้อแล้วใส่รถกลับมาครั้งละชิ้น สองชิ้น กว่าจะครบก็ล่อไป 4 รอบเหมือนกันนะ 5555 พอได้ไม่ลังมา ผมกับแม่ก็ช่วยกันขัดเอาเสี้ยนไม้ต่างๆแล้วก็ส่วนที่ไม่เรียบร้อยออกไปซะ ทาเคลือบเนื้อไม้นิดหน่อยก็เป็นอันใช้ได้

สรุปค่าใช้จ่าย ไม้ลัง ประมาณ 700 บาท น้ำยาเคลือบไม้อีกประมาณไม่เกิน 200 บาท

ส่วนต่อไปคือห้องน้ำ ตอนที่มาดูบ้านครั้งแรกตื่นเต้นกับขนาดของห้องน้ำมาก เพราะใหญ่มากกกกก และมีอ่างอาบน้ำไว้ให้แล้ว แต่ขัดใจแค่ผนังด้านนึงเป็นกระเบื้องลายแปลกๆ (จริงๆ มันก็สวยดีแหละครับ แค่มันอาจจะไม่ถูกใจเราเท่าไหร่ ก็เลยรู้สึกว่า ขัดหูขัดตาอย่างมาก) ผมเลยจัดการให้พ่อช่วยเลาะเอากระเบื้องเก่าออก ก็จะเห็นปูนที่ไม่เรียบ จากนั้นก็ทาน้ำยากันเชื้อรา และทาสีขาวทับลงไป แล้วที่เหลือก็เป็นเรื่องตกแต่งแล้วครับ ของผมมีทั้งไม้ลังที่เหลือจากเตียง และกรอบรูปเก่า และชั้นวางของที่เคยซื้อไว้ก็ให้พ่อช่วยทำให้ลอยตัวได้บนผนังซะ

ส่วนโซนเสื้อผ้า เอาตรงๆก็คือยังไม่ได้แต่งครับ เงินหมดก่อน ก็มีแค่ไม้ลัง (เหมือนเดิม) มาทำเป็นชั้นวางเสื้อผ้า และราวตากผ้าจากอิเกีย
โซนโซฟา ก็ไม่มีอะไรเลยนอกจาก โซฟา จากอิเกีย และโคมไฟยักษ์ ที่ดัดแปลงมาจากไฟที่ใช้ถ่ายรูปราคาประมาณ หลักพันต้นๆ (พอถึงเวลาใช้งานก็ย้ายไปใช้นะครับ มีประโยชน์หลากหลายมาก 555)

ส่วนสุดท้ายของห้องนอนนั่นก็คือ โซนเก็บแผ่นหนังและหนังสือ ผมเป็นคนมีหนังสือที่บ้านเยอะมากกกกกก เคยต้องบริจาคครั้งใหญ่ไปหลายรอบเพราะปลวกเริ่มจะกิน แม่เลยเอาไปบริจาค ตอนนี้ก็ยังมีอยู่บ้าง แต่ก็น้อยลง ส่วนแผ่นหนังก็เยอะพอสมควร เป็นคนที่ยังชอบการซื้อแผ่นหนังเก็บไว้อยู่ เพราะเรารู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ในแบบของมันเองดี ยิ่งเราเป็นนักแสดงเราจะยิ่งเห็นความสำคัญของการอุดหนุนของแท้ถูกลิขสิทธ์ว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นตัวต่อลมหายใจของผู้ผลิตสื่อบันเทิงมากกว่าการหาดูฟรีในอินเทอร์เน็ต เพื่อนเคยถามว่าก็ทำไมไม่เสียเงินดูในอินเทอร์เน็ตหล่ะ แต่เรารู้สึกว่าการหยิบแผ่นหนังมาเปิดมันเหมือนเราได้ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆระหว่างที่ดูไปด้วย เพราะส่วนใหญ่เป็นหนังที่เราดูในโรงแล้ว แค่อยากซื้อแผ่นเก็บไว้เป็นระลึก ที่เห็นนั่นแค่ส่วนนึงเท่านั้น แม่ได้จัดการเก็บใส่ลังไปบางส่วนเรียบร้อย เพราะกลัวหล่นทับลูกตาย 555

*** โอเคหลังจากเล่าที่มาที่ไปมาทั้งหมด ผมขอลงรูปหลังจากห้องสมบูรณ์แล้วเลยแล้วกันนะครับ ไปดูกันเลย ถ้าใครอยากรู้ว่าชิ้นไหน หามาจากไหนก็ลองถามได้เลยนะครับ

ถัดลงมาอีกชั้น ในชั้นสองของบ้าน ผมใช้ห้องนอนเก่าที่เป็นห้องโล่งๆธรรมดาเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องสตูดิโอครัวซะ เพื่อเอาไว้สอนทำขนมบ้าง ไว้ฝึกทำครัวเองบ้าง แต่บอกก่อนเลยครับว่างบประมาณในห้องครัวไม่ใช่เล่นๆเลย เล่นเอาปาดเหงื่อไปหลายรอบเหมือนกัน โดยห้องครัวนี้ผมให้น้องที่เป็นสถาปนิกมาช่วยออกแบบและหาผู้รับเหมาให้ โดยที่แบบทั้งหมดถูกออกแบบมาจากความคิดผมทั้งหมด และวัสดุทุกชิ้นผมก็ลงมือไปเลือกเองทุกชิ้นเพื่อให้ได้อย่างที่เราต้องการจริงๆ ยังไงใครอยากได้ข้อมูลส่วนไหนเป็นพิเศษก็ลองถามผมกันได้นะครับ

*** อันนี้เป็นความภาคภูมิใจที่สุด คือ ผมเรียนจบเชฟจาก le cordon bleu แล้วนะครับ หนึ่งปีสองเดือนแห่งความทรหดของผม สำเร็จซะที ขออวดนิดนึงนะครับ อิอิ ***

สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกคนที่อ่านกระทู้นี้นะครับ หวังว่าจะช่วยให้หลายๆคนมีกำลังใจในการแต่งบ้านในฝันของตัวเองบ้างนะครับ จริงๆของส่วนใหญ่ในบ้านผมก็ไม่มีราคาสูงอะไรเลยครับ แต่ผมว่ามันสุขใจที่ได้ใช้มากกว่า ยิ่งหลายๆชิ้นก็เป็นของมีตำหนิที่เอามาลดราคาบ้าง หรือถ้าอยากให้ได้บ้านที่ถูกใจที่สุดก็อาจจะต้องลงมือดูแลด้วยตัวเองเยอะหน่อย แต่มันก็คุ้มค่านะครับ เวลาเหนื่อยๆ กลับมา ก็มีพลังขึ้นเยอะเลย

ป.ล.   ไม่รู้ว่าผมสามารถฝากอะไรได้บ้างในพันทิป ถ้าผิดพลาดยังไง บอกกล่าวผมได้เลยนะครับ ผมยินดีแก้ไขครับ
ป.ล.2 ผมเริ่มต้นเขียนบทความต่างๆลงในเพจที่ชื่อว่า นั่งร้าน เพราะอีกไม่นานผมจะไปเรียนต่างประเทศแล้ว  ก็เลยอยากมีพื้นที่ได้เขียนอะไรต่างๆ ยังไงใครสนใจไปติดตามกันได้นะครับ ที่ http://www.facebook.com/nangraan
ป.ล.3 ยังไงผมขอฝาก YOUTUBE ของผมด้วยนะครับ ที่ http://www.youtube.com/teng1number1 ผมตั้งใจทุกอย่างในนั้นจริงๆครับ
ป.ล.4 สุดท้ายแล้วจริงๆครับ เดี๋ยวปลายเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งก็เหลืออีกไม่ถึงสองเดือน ผมจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว แต่ก่อนไปผมเริ่มๆเปิดสอนทำขนมในเมนูง่ายๆ ถ้าใครสนใจก่อนที่เราจะไป มาเรียนทำขนมด้วยกันนะครับ ฝากติดตามรายละเอียดที่ http://www.facebook.com/apriltrees.bkk
ขอบคุณมากๆครับ
เต็งหนึ่ง




อัลบั้มภาพ 33 ภาพ

อัลบั้มภาพ 33 ภาพ ของ "เมื่อผมแต่งบ้านในฝันด้วยตัวเอง"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook