เปลี่ยนร้านไอศกรีม "สีเลี่ยน" ด้วยผนัง "สีรุ้ง" แบบทำเอง

เปลี่ยนร้านไอศกรีม "สีเลี่ยน" ด้วยผนัง "สีรุ้ง" แบบทำเอง

เปลี่ยนร้านไอศกรีม "สีเลี่ยน" ด้วยผนัง "สีรุ้ง" แบบทำเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลจากการอ่านกระทู้ตกแต่งบ้าน รีโนเวทบ้านมาเยอะแยะ ทำให้คุณ สมาชิกหมายเลข 1824947 จากเว็บไซต์พันทิปนึกสนุกอยากลองปรับเปลี่ยนสีร้านไอศกรีมแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นร้านไอศกรีมสีรุ้ง น่ารัก สดใส พร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยค่ะ

อ่านกระทู้รีโนเวทมาเยอะ เพิ่งได้มีโอกาสตั้งกระทู้เป็นของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ารีโนเวทได้ไหม
ร้านไอศกรีมของเราเป็นร้านเล็กๆ ขายไอศกรีมและนมปั่นเป็นหลัก มีอย่างอื่นมาเสริมบ้างตามอารมณ์เจ้าของร้านชอบกิน ที่สำคัญคือ ไม่มีชื่อร้านตายตัว บางคนก็เรียก ร้านไอศกรีมสีชมพู(ตามสีร้านเลย) บางคนก็เรียกร้านไอศกรีมข้างปั๊ม(ก็เพราะมันอยู่ติดปั๊ม) แล้วแต่คนจะเรียกกันไป และร้านเราเป็นสีชมพูมาเป็นเวลาประมาณ 8-9 ปี มันก็ต้องมีเบื่อกันบ้างเนอะ ก็เลยได้มีโอกาสละเลงสีกันใหม่ ผลออกมาเป็นยังไง เดี๋ยวเรามาดูกัน
ปล. ใช้คำผิด ไม่สุภาพ พิมพ์ตก เนื้อคำแปลกๆ  ติดภาษาวัยรุ่นไปบ้าง ไม่ว่ากันนะ ยังไงก็ฝากกระทู้ด้วยนะครับ

จุดเริ่มต้นของการรีโนเวทในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากพ่อจะทำพื้นข้างร้านใหม่ ขยับขยายพื้นที่วางของ โละตู้เก็บเครื่องมือออกให้แม่ได้มีพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น และต้องการแต่งพื้นใหม่ด้วยการลงสีย้อมปูน เนื่องจากเราได้ทำการย้ายเตาแก๊สไปไว้ที่ใหม่ ทำให้พบว่าที่เดิมนั้นกำแพงมันเต็มไปด้วยคราบน้ำมันไม่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง จึงเกิดโปรเจ็คทาสีกำแพงเพิ่มไปอีก 1 รายการ ตอนแรกก็แค่กำแพงในฝั่งทางเดินข้างร้านเล็กๆ ไม่ได้มีพื้นที่มากมาย เอาไว้เดินไปห้องน้ำเฉยๆ แต่ไม่รู้คุยกันไปคุยกันมาทำไมกลายเป็นว่าเปลี่ยนสีใหม่ทั้งร้านเลย เรามีเวลา 2 วันในการหาแบบและสีที่ถูกใจ (กลับบ้านในช่วงวันหยุดกลางสัปดาห์พอดี ต้องกลับไปทำงานต่อที่อีกจังหวัด)

แปะรูปสภาพร้านเดิมให้ดูก่อนเป็นขวัญตา (?)

  
หลังจากหามาเป็น 10 กว่าแบบ เพื่อหาแบบที่ถูกใจทุกคนในบ้าน ผลปรากฏว่า ตกลงกันไม่ได้ พ่ออยากได้สไตล์ลอฟท์ แต่แม่อยากได้”สีๆ” แม่ให้เหตุผลว่าเราขายไอศกรีมอยากแต่งร้านให้มันดู”มีสีสัน” ผลสรุปคือร้านเราต้องเป็นสี (พ่อไม่ได้กลัวแม่นะ แค่ตามใจเฉยๆ ) แต่ก็ยังคงมีคำถามต่อไปว่า “สีอะไร?” ข้ามขั้นตอนการเถียง เอ๊ย ตกลงเรื่องสีและแบบไปเลยเนอะ เดี๋ยวมันจะยาว การคุยกันในคืนนั้นเลยจบด้วยคำว่า “อยากได้สีไรก็ไปซื้อมาเลยละกัน ” แป่ว!! แบบที่หามาไม่ช่วยอะไร

ร้าน(แบบ)เดิมครับ ของตกแต่งเพียบ ไม่มีสไตล์ ไม่ได้เข้ากันเลย ฮ่าๆ

 
เช้าวันเสาร์ พ่อเรายังคงไปทำงานตามปกติ แต่ได้มอบหมายไว้ว่า ไปซื้อสีมา แล้วช่วยกันทำไปเลย เรากับแม่ก็เลยพากันไปสู่ร้านสีผู้โชคร้าย ใช้เวลาสิ่งสถิตอยู่ร้านสีนานมาก นั่งเล็งชาร์ตสีจนของเขาจะพรุน ถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปแล้ว แต่ก็ยังคงเลือกไม่ได้ซักที (ถ้าใครเคยดูชาร์ตสีจะรู้ว่าสีมันเยอะมาก) ผลที่ได้ออกมาคือแบบนี้

  
ปล.สำหรับใครที่จะสั่งผสมสี อย่าเชื่อในชาร์ตสีมากนะครับ ในชาร์ตสีจะดูหม่นไม่ค่อยสด (ไม่รู้เพราะคนจับเยอะแล้วรึป่าว) สีที่ออกมาจะ “เข้ม” และ “สด” กว่าชาร์ตสีในระดับหนึ่งเลย

เพื่อความหลากหลายของเฉดสี เราจึงทำการผสมกันเองเลย ประหยัดงบไปในตัว (ไม่กล้าเอาสีๆ มาผสมกันเอง กลัวออกมาช้ำเลือดช้ำหนอง)

  
ก่อนอื่นต้องลงสีรองพื้นปูนเก่าก่อนครับ ลักษณะจะเป็นน้ำสีขาวแต่พอทาไปแล้วเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลย พ่อบอกว่ามันจะเป็นเหมือนเราทากาวเพื่อให้สีใหม่เกาะได้ เราจึงทำการเคลียร์พื้นที่และลงสีรองพื้นซะ
อันนี้ฝั่งร้านปลา

   
และส่วนนี้ฝั่งปั๊มครับ (เรียกซ้ายกับขวายาก เพราะชอบหันหน้ากันคนละทาง สุดท้ายก็ตีกัน ฮ่าๆ)

   
อันนี้น้องกำลังทาสีลองพื้นปูนเก่าครับ ลักษณะจะเป็นน้ำ(เหลวมาก)สีขุ่นๆ แต่พอทาลงไปแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ ทาก็เหมือนไม่ทา
แต่มันจะช่วยในการยืดเก่าสีใหม่ครับ เพราะฉะนั้น มันยังคงจำเป็นอยู่ อย่าคิดว่ามันเปลืองครับ

เอาล่ะ ได้เวลางัดวิชาศิลปะเกรด 2 สมัยม.ต้นออกมาใช้ พ่อก็ไม่อยู่ แม่ก็ไม่สนใจ จัดการเองเลยละกัน ผลออกมาเป็นยังไง ได้ชมกันได้เลยครับ
วันแรกของการรีโนเวทครับ
ขั้นตอนแรกก็เป็นไปตามทฤษฎีศิลปะตามที่เรียนมา ก่อนลงสีต้องตีเส้นก่อนครับ

    
หลังจากนั้นเราก็ละเลงกันได้เต็มที่ ใครชอบสีไหนลงสีนั้น ไม่มีหลักการใดๆ แอบแฝง ชิงกันลงช่องใหญ่เพื่อให้สีที่ตัวเองชอบมีเยอะที่สุด

   
ไม่ต้องแย่งกันครับ ทุกคนมีสิทธิ์ได้ขึ้นบันไดเท่ากัน (เหมือนเป็นเรื่องน่าภูมิใจ)

หลังจากลงสีเสร็จ(ไปฝั่งหนึ่ง) เราก็ทำการตัดเส้นเพื่อความสวยงาม อันนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเทคนิคได้ไหมนะครับ เพื่อความรวดเร็ว ก่อนลงสีเราจะเอาเทปหนังไก่ เทปผ้ายืด เทปย่น หรือเทปขุ่น แล้วแต่คนจะเรียก (สีขาวขุ่นๆเหลืองๆเอาไว้ใช้แปะขอบกระดาษกันระบายสีเตลิดเวลาเรียนสีน้ำ) แปะลงไปบนเส้นสีขาวก่อน ย้ำว่าแปะให้เนี้ยบ พยายามลูบให้กระดาษกาวติดกับผนังให้แน่นที่สุด ไม่งั้นต้องเก็บงานกันยาวเลยครับ (แล้วจะหาว่าไม่เตือน)

  
รอให้สีแห้งก่อนนะครับ แล้วค่อยลอกเทปกาวออก และอย่าลืมเหลือสีไว้ซ่อมด้วย ถ้านิดๆ หน่อยๆ ยังพอให้อภัยครับ แต่ถ้าสีเป็นขี้กลาก(ทาสีไม่สม่ำเสมอ ยังเห็นสีเก่าอยู่ )เมื่อไหร่ อยากจะร้องไห้เลยทีเดียว เพราะถ้าให้ผสมใหม่มันจะไม่เหมือนเดิม หมดเวลาของวันแรก ทาได้ฝั่งเดียวเอง เสียเวลาไปกับการเลือกสีเป็นอย่างยิ่ง

   
มาต่อกันที่วันที่ 2 ครับ
ถึงคราวของฝั่งปั๊มครับ เช่นเคยยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะเอาแบบไหน พ่ออยากได้เหมือนฝั่งร้านปลา แต่แม่บอกว่ามันจะเลี่ยน (ทาสีหรือกินเนย?) สุดท้ายก็ตามคอนเซ็ปต์ครับ พ่อตามใจแม่ ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้

   
ตอนทาต้องนับช่องดีๆ ครับ ทาผิดช่อง แก้กันยาวเลย ฝั่งนี้รูปน้อยครับ ไม่ค่อยได้ถ่าย กลัวทาไม่ทัน
ช่องข้างบนเป็นกำแพงบ้านของฝั่งปั๊ม ก็เลยเว้นไว้ เราจะไม่ยุ่งของๆ เขา

ถึงคราวของผนังฝั่งที่  3  อันนี้คิดหนักเลยคับ แบบว่า หมดมุขจริงๆ ก็เลยออกมาเป็น...ลายอิฐ
เช่นเคยครับ ตีเส้นก่อน

   

    
ยอมรับว่า Fail กับกำแพงฝั่งนี้มาก เหมือนมันไม่เข้าพวกเลย และมันเป็นฝั่งที่หันออกหน้าร้านโดยตรง น่าจะเด่นกว่านี้ (ถ้าคิดแบบออกแล้วจะกลับไปแก้ใหม่ )

สิ้นสุดการทาสีภายใน 2 วันครับ ต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว แต่ร้านของเราก็ยังไม่สิ้นสุดการรีโนเวทครับ

อันนี้ย้อมสีพื้นปูนครับ เนื่องจากแผ่นหินมันแพง เราจึงดัดแปลงด้วยการ.....วาดเอา

   
ร่วมด้วยช่วยกัน พ่อลงสี ลูกชายขัด



มาถึงการจัดร้านใหม่ครับ
ก่อนอื่นก็เปลี่ยนโต๊ะใหม่ครับ ไปรับถึงที่ร้าน สั่งแบบไม่ทำสีครับ ประหยัดงบอีกเช่นกัน

   
ขัดผิวและลงสี  ตอนแรกจะเอาแบบ ขาขาว ฝาสี แต่ดูไปดูมา เหมือนสีจะเยอะไปเลยจบแค่สีขาวครับ

     
ต่อไปจะเป็นการตกแต่งร้านเพิ่มเติม  กระจกที่เคยติด เอาออกหมดเลยครับ เหลือเพียงแค่ผนังโล่งๆ
ขอลงรูปล้วนๆ เลยละกันนะครับ

   

    
ทำแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ ประหยัดงบให้ได้มากที่สุด ลูกมีก็ใช้งานกันไป ถือเป็นการฝึกความสามารถให้เพิ่มขึ้น

สิ้นสุดการรีโนเวทแต่เพียงเท่านี้ครับ  
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น

ค่าสี  6,500 บาท (สีกึ่งเงา เช็ดได้)
- สีรองพื้นปูนเก่า ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 700 ครับ (อันนี้จำไม่ได้จริงๆ)
- แม่สี 5 สี ขนาด 3.8 ลิตร ถังละประมาณ 800 กว่าบาทครับ (สีแดงซื้อแบบด้านมาผสมเองครับ สั่งผสมถังละ 1,100 กว่าบาท)
- สีขาว ขนาด 9 ลิตร 1,000 กว่าบาทครับ
- อุปกรณ์ทาสีทั่วไป แปรง ลูกกลิ้ง ถาดสี เทปกาว(เปลืองที่สุด )
(สีสั่งผสมจะแพงกว่าสีสำเร็จรูปครับ ปกติถังละประมาณ 450 ถ้าสั่งผสมจะ 600+ ขึ้นอยู่กับแม่สีด้วย สีที่แพงที่สุดจะเป็น แดง ม่วง ส้ม)
ค่าโต๊ะประมาณ 7,000 บาท
ที่เหลือจะเป็นพวก ผ้าปูโต๊ะ กับของแต่งเพิ่มเติมครับ

ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก เอ เทอร์โบ และ คุณพ่อเราเอง
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก(ที่โพสจริงจัง) ผิดพลาดยังไงก็บอกได้นะครับ

ปล. ณ ตอนนี้ทางร้านก็ยังไม่มีชื่อเป็นของตัวเอง หากใครมีชื่อเหมาะสามารถเสนอได้นะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมนะครับ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ ของ เปลี่ยนร้านไอศกรีม "สีเลี่ยน" ด้วยผนัง "สีรุ้ง" แบบทำเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook