10 FLOORS FOR YOUR STYLE ว่าด้วยเรื่อง พื้น-พื้น

10 FLOORS FOR YOUR STYLE ว่าด้วยเรื่อง พื้น-พื้น

10 FLOORS FOR YOUR STYLE ว่าด้วยเรื่อง พื้น-พื้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพราะเราเชื่อว่า พื้น ไม่ใช่แค่เรื่องพื้น-พื้นที่จะมองข้ามไปได้ โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่มีวัสดุใหม่ ๆ ออกมาหลากหลายให้เราสนุกกับการสร้างสรรค์พื้นสวย ๆ ได้ตามใจชอบ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่นิยมใช้พื้นไม้จริง หินอ่อน หรือกระเบื้องลายเรียบ ๆ วันนี้เราจึงมีตัวอย่างพื้นสวย 10 สไตล์มาฝาก เพื่อเป็นทางเลือกให้คุณนำไปใช้หรือดัดแปลงให้เข้ากับบ้านในฝัน



1. Polished Concrete
ยังคงฮิตไม่เลิกสำหรับพื้นปูนซีเมนต์ขัดมันที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ เพราะนอกจากจะดูเรียบเท่แล้วยังดูแลรักษาง่าย แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกันคือ หากต้องการเทซีเมนต์ขัดมันในพื้นที่กว้าง ๆ อาจทำได้ยาก และคุณภาพงานอาจออกมาไม่ดี แก้ปัญหาได้ด้วยการตีเส้นเซาะร่องเพื่อซอยให้พื้นที่มีขนาดเล็กลง หลังการขัดมันควรทาน้ำยาเคลือบผิวประเภทซิลิโคนหรือน้ำยาเคลือบเงา เพื่อช่วยป้องกันความชื้นและทำความสะอาดง่าย (ราคารวมค่าแรงและวัสดุอยู่ที่ตารางเมตรละ 300-350 บาท)



2. PVC Tile
แมน ๆ อย่างคุณผู้ชายที่ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์ คงต้องการพื้นที่สามารถวางชุดขับขี่หรืออุปกรณ์ซ่อมแซมเบื้องต้นได้แบบไม่ต้องกลัวเลอะเทอะ ลองใช้กระเบื้องยางลายเท่อย่างลายแผ่นเหล็กที่เข้ากับบ้านสไตล์ลอฟต์ดูสิ  เพราะกระเบื้องยางสามารถป้องกันไม่ให้รถคันโปรดของคุณเป็นรอย เก็บเสียงได้ดี กันน้ำ ไม่ขึ้นสนิม แถมยังมีลายให้เลือกหลากหลาย ส่วนการดูแลรักษาก็แสนง่าย ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำก็พอแล้ว แต่ถ้าไม่มีเวลาทำความสะอาดทุกวัน แค่ทาแว็กซ์ชนิดน้ำเพื่อรักษาพื้นให้คงทนเงางามเท่านี้ก็ดูเอี่ยมเหมือนใหม่แล้ว (ราคาติดตั้งเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 100 กว่าบาท)



3. Rustic Industrial
หากคุณหลงใหลสไตล์รัสติกอินดัสเทรียลที่ให้ความรู้สึกเหมือนโรงงานกึ่งเรือนกระจกเก๋ ๆ ละก็ เราขอแนะนำการปูพื้นด้วยอิฐมอญธรรมดา ๆ ที่หาได้ง่ายในบ้านเรา นำมาดัดแปลงจากปกติที่เคยก่อเป็นผนัง พลิกแพลงมาใช้ปูพื้นแทน ก่อนปูควรนำอิฐไปแช่น้ำให้อิ่มตัวเสียก่อน แล้วนำไปผึ่งให้หมาด ปูโชว์ด้านกว้างเหมือนลายผนังอิฐ  ส่วนระยะห่างของแต่ละก้อนก็แล้วแต่ความพอใจ แต่โดยมากมักปูให้ห่างกันประมาณ 1.5 - 2.0 เซนติเมตร และอย่าลืมทาน้ำยากันซึมสำหรับทาอิฐ เพื่อป้องกันตะไคร่น้ำเกาะบนผิวด้านหน้าด้วย



4. Alternative Wood
นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ชอบลวดลายของไม้ แต่มีงบประมาณจำกัด และต้องการใช้วัสดุที่มีความทนทานยาวนาน กระเบื้องยางลายไม้ถือเป็นวัสดุที่อยากแนะนำ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ แถมยังมีลายไม้สวย ๆ ให้เลือกมากมาย  นำเข้ามาทั้งจากจีนและเกาหลี  ส่วนความหนาก็มีหลากหลายตั้งแต่ 2,3,4,และ 5 มิลลิเมตร ตามแต่ละพื้นที่ที่จะนำไปใช้งาน และหลังการติดตั้งยังรับประกัน 1 ปี ด้วย  (ราคาค่าติดตั้งตารางเมตรละ 350 บาท)  

TIPS
1. ก่อนปูกระเบื้องยาง พื้นต้องขัดเรียบไม่มีเม็ดทราย หรือจะปูบนแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์แต่ต้องแน่ใจว่าไม่เปียกชื้น
2. ควรเก็บกระเบื้องยางก่อนปูที่อุณหภูมิ 20-30 องศาเซลเซียส



5. Random Movement
กระเบื้องเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย ลวดลายแรนดอมสีแบบนี้ก็มีในท้องตลาดมากมาย แต่ถ้าคุณอยากได้สีสันที่แตกต่างออกไป ลองตัดกระเบื้องแผ่นใหญ่ให้ได้ขนาด 3x12 นิ้ว  แล้วเลือกเฉดสีโทนเดียวกันสัก 3-4 เฉด นำมาปูแบบแรนดอม แค่นี้พื้นห้องของคุณก็จะดูสวยไม่ซ้ำใคร

แต่ถ้าต้องการนำวิธีนี้ไปใช้กับพื้นห้องน้ำ อย่าลืมเลือกกระเบื้องที่เหมาะกับการใช้งานผิวหน้าไม่ลื่นจนเกินไป  ปกติกระเบื้อง 1 กล่อง จะปูได้ 1 ตารางเมตร แต่ถ้าใครกะไม่ถูก สามารถคำนวณโดยนำความกว้าง x ความยาว (เมตร) ของพื้นที่ที่ปู ออกมาเป็นหน่วยตารางเมตร แล้วจึงค่อยไปซื้อกระเบื้องตามชอบ แนะนำให้ซื้อเผื่อไว้สัก 5-10 กล่อง ในกรณีมีปัญหาที่หน้างาน เช่น กระเบื้องแตกหัก รวมถึงการซ่อมแซมในอนาคต ถ้าหากโรงงานเลิกผลิตกระเบื้องล็อตนั้นไปแล้ว

TIPS    
- ควรนำกระเบื้อง 3-5 กล่องมาปูคละกันเพื่อให้เกิดสีที่ดูกลมกลืน และก่อนปูต้องนำไปแช่น้ำให้อิ่มตัวเสียก่อน (ยกเว้นกระเบื้องแกรนิตโต้)
- เมื่อปูกระเบื้องและยาแนวแล้ว ควรทิ้งให้อยู่ตัวประมาณ 24 ชั่วโมง และจะอยู่ตัวได้ดีใน 14 วัน
- เลือกใช้กระเบื้องให้ถูกประเภท เพราะกระเบื้องสำหรับกรุผนังจะบางกว่าและปูพื้นไม่ได้
- หากเลือกปูกระเบื้องบริเวณภายนอกอาคารหรือพื้นที่มีความชื้นสูงอย่างห้องน้ำ ในขั้นตอนการเทปูนซีเมนต์ปรับระดับควรผสมน้ำยากันซึมลงไปด้วย  



6. Artificial Wood (มีบรรยายภาพ)
เลือกใช้ไม้สังเคราะห์เฉดสีอ่อนและเข้มมาปูสลับกันเป็นลวดลายซิกแซกหรือลายก้างปลา ซึ่งยังคงเป็นลายยอดนิยมมาถึงปัจจุบัน  ขั้นตอนการปูควรเว้นขอบให้ห่างจากผนังเล็กน้อยเพื่อให้ไม้ขยายตัวได้ และด้วยลักษณะของลายที่ดูเหมือนมีการเคลื่อนไหว จึงเหมาะกับห้องที่มีกิจกรรมสร้างความรู้สึกตื่นตัว อย่างห้องอ่านหนังสือ ห้องชมภาพยนตร์ หรือห้องดนตรีก็เท่ไม่ซ้ำใคร ปัจจุบันมีวัสดุใช้ทดแทนพื้นไม้จริงให้เลือกมากมาย อย่างพื้นไม้ปิดผิวลามิเนต พื้นไม้ปิดผิวด้วยวีเนียร์ พื้นไม้จริงเทคนิคเอนจิเนียร์ หรือถ้าชอบไม้จริงก็สามารถใช้เป็นพื้นไม้จริงแบบสำเร็จรูปได้ มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 1,6,8 นิ้ว หรือมากกว่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะผลิต 4 นิ้ว  ยาว 0.90 เมตร ราคาอยู่ที่ตารางเมตรละ 700 - 2,000 บาท

TIPS
- หากต้องการให้ใต้พื้นเรียบหรือต้องการให้พื้นไม้แข็งแรงขึ้น ให้รองด้วยแผ่นไม้อัดชนิดกันปลวกหรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์
- การปูแบบก้างปลานี้จะมีราคาสูงกว่าการปูแบบชนิดอื่น เนื่องจากต้องซื้อไม้เผื่อตัดเยอะกว่า
- หากห้องมีขนาดเล็กไม่ควรใช้ไม้ปูขนาดใหญ่เพราะจะยิ่งทำให้ห้องดูแคบลง



7. Gorgeous Marble Mosaic
ตกแต่งให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่ในรีสอร์ต แต่ก็ไม่ทิ้งรายละเอียดของพื้นที่ให้ความรู้สึกหรูหราด้วยการปูพื้นหินอ่อนโมเสก โดยเลือกใช้โทนสีเทาสลับเฉดที่ดูนิ่งเรียบแต่ไม่น่าเบื่อ นอกจากความสวยงามแล้ว หินอ่อนยังมีข้อเสียอยู่ตรงที่เนื้อวัสดุมีความไม่แข็งแรงนัก ซ้ำยังมีรูพรุนเล็ก ๆ ในเนื้อหิน จึงเกิดรอยขีดข่วน และสิ่งสกปรกซึมลงไปได้ง่าย การดูแลรักษาทั่วไปควรใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาเช็ดทุกวัน และใช้น้ำยาเช็ดหินอ่อนสัปดาห์ละครั้ง หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีสารเคมีจำพวกกรดและด่าง หรือถ้าเป็นรอยมาก ๆ แนะนำติดต่อให้ช่างใช้เครื่องมือมาขัดลอกผิวหน้าใหม่จะดีกว่า

TIP
ขนาด 30x60 เซนติเมตร หินอ่อนภายในประเทศ ตารางเมตรละ 750-1,500 บาท และหินอ่อนนำเข้าจากต่างประเทศ ตารางเมตรละ 2,300-3,500 บาท



8. Graphic Carpet
เพิ่มลูกเล่นให้ห้องสนุกขึ้นด้วยพรมทอลายกราฟิกบ่งบอกความชื่นชอบของคุณ จริง ๆ แล้วในบ้านเรามีการนำพรมมาใช้ในงานตกแต่งมานานแล้ว แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบเรียบ ๆ  หรือไม่ก็เป็นลายที่มีขายเหมือน ๆ กันตามท้องตลาด เพื่อสร้างความแตกต่างปัจจุบันมีร้านพรมที่ให้บริการทอลายตามสั่งมากขึ้น ให้คุณได้พรมที่มีลวดลายตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกชนิดและสีสัน เหมาะนำไปใช้ให้เข้ากับอารมณ์ห้อง อย่างในห้องนั่งเล่นหรือห้องดูหนังเหมาะตกแต่งด้วยพรมลายกราฟิกเพื่อสร้างความรู้สึกสนุกสนาน มีราคาขึ้นอยู่ความยากง่ายและขนาดของลวดลาย นอกจากคุณจะถูกใจกับพรมที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลินไม่น้อยสำหรับคนรักการแต่งบ้านเช่นคุณ  



9. Gradient Element
ลองเปลี่ยนอารมณ์แข็ง ๆ ของพื้นบริเวณกึ่งเอ๊าต์ดอร์อย่างทางเดินที่เชื่อมระหว่างบ้านหรือระเบียงให้สนุกยิ่งขึ้น ด้วยการไล่สีกระเบื้องเหมือนการปูโมเสกขนาดยักษ์ โดยเลือกปูไล่สีจากเข้มไปหาอ่อน ให้ความรู้สึกเหมือนการกระจายน้ำหนัก และเนื่องจากเป็นกระเบื้องที่ใช้ภายนอก จึงต้องดูรักษามากกว่ากระเบื้องทั่วไป และควรออกแบบให้มีความลาดเอียงเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังที่สเกล 1:200  และควรเลือกกาวซีเมนต์และกาวยาแนวที่มีความยืดหยุ่น เนื่องจากพื้นภายนอกอาจเจอทั้งความร้อนและความชื้น ทำให้เกิดการขยายและยืดหดตัวมากกว่ากระเบื้องที่ใช้ในบ้าน

TIPS
สำหรับพื้นทางเดินที่มีขนาด 1.5 x 4 ตารางเมตร หรือ 6 ตารางเมตร แนะนำให้ใช้กระเบื้อง 3 เฉดสี
1. กระเบื้องสีดำ ผิวด้านขนาด 8x8 นิ้ว  จำนวน 2 กล่อง
2. กระเบื้องสีเทา ผิวด้านขนาด 8x8 นิ้ว จำนวน 3 กล่อง
3. กระเบื้องสีครีม ผิวด้านขนาด 8x8 นิ้ว จำนวน 2 กล่อง
- หากใช้กระเบื้องสีดำมากเกินไป จะทำให้ทางเดินดูหนักและตัน
- กระเบื้องขนาด 8x8 นิ้ว 1 กล่องมี 25 แผ่น (อย่าลืมซื้อเผื่อ 5-10 กล่องด้วย)



10. Refined Classic
สไตล์คลาสสิกนับเป็นสไตล์ที่ถูกเลือกมาใช้แต่งบ้านอยู่เสมอ ด้วยองค์ประกอบที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนยิ่งเพิ่มคุณค่าและทรงเสน่ห์ให้น่าหลงใหล การเลือกประเภทและสีสันของพื้นก็นับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญ วันนี้เราขอแนะนำการปูพื้นให้ออกมาในสไตล์คลาสสิกที่ไม่ยากและแพงอย่างที่คิดมาฝาก ด้วยการเลือกกระเบื้องแกรนิตสีขาว-ดำขนาด 8x8 นิ้ว อย่างละ 4 แผ่น ปูสลับเหมือนตารางหมากรุกและเพิ่มลูกเล่นด้วยการปูแนวทแยง (แบบไดมอน) เพียงเท่านี้บ้านของคุณก็จะได้ลุคคลาสสิกที่ดูดี แต่ราคาสบายกระเป๋า (ราคาปูกระเบื้องธรรมดาตารางเมตรละ 100-130 บาท และกระเบื้องแกรนิตโต้ ตารางเมตรละ
130-150 บาท)

TIPS
1. ถ้าเป็นการปูกระเบื้องลงบนพื้นเดิม ควรกะเทาะผิวพื้นเดิมให้เป็นหลุมเล็ก ๆ เพื่อให้ปูนสำหรับปูกระเบื้องยึดเกาะได้ดี
2. การปูกระเบื้องควรเริ่มจากกลางห้องหรือจากด้านใดด้านหนึ่ง
3. หากต้องการจัดหรือปรับตำแหน่งกระเบื้องใหม่ ควรทำภายใน 10 นาที ก่อนกาวกระเบื้องจะแห้งสนิท

ที่มา

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ 10 FLOORS FOR YOUR STYLE ว่าด้วยเรื่อง พื้น-พื้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook