ปลูกบ้านอายุ 30 ปี ให้อยู่ได้อีก 30 ปี สาธุ

ปลูกบ้านอายุ 30 ปี ให้อยู่ได้อีก 30 ปี สาธุ

ปลูกบ้านอายุ 30 ปี ให้อยู่ได้อีก 30 ปี สาธุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำหรับคุณสาลิกาโบยบิน จากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอม ที่ตัดสินใจปรับปรุงบ้านพักคุณหมอที่มีอายุเก่าแก่ถึง 30 ปี เพื่อให้สามารถอยู่ต่อไปได้อีก 30 ปี Sanook! Home ภูมิใจนำเสนอ ว่าแล้วไปดูกันเลยค่ะ กลับมาแล้วครับ หลังจากที่เคยตั้งกระทู้ขอคำแนะนำเพื่อน ๆ ในห้องชายคาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับกระทู้รีโนเวทบ้าน
ความเดิมจากกระทู้นี้นะครับ

ซึ่งสุดท้าย จากการระดมความคิดเห็นทั้งจากเพื่อน ๆ และคนรอบตัว ก็สรุปว่า ในเมื่อตั้งใจจะทำงานอยู่ที่นี่อีกนาน (เจ้าของบ้านเดิมก็อยู่จนเกษียณ) เพราะคนไข้น่ารัก เพื่อนร่วมงานน่ารัก ผู้บังคับบัญชาก็น่ารัก ฉะนั้นเราซ่อมบ้านหลังนี้กันดีกว่า และทำทั้งทีกะอยู่นาน ก็คงซ่อมใหญ่ไปเลยจะได้อยู่กันไป ให้ได้ยันเกษียณ (เพี้ยง) ก็เลยเริ่มหาไอเดียครับ ซึ่งก็มาจากการฝังตัวในห้องชายคานี่แหละ และก็หาหนังสือบ้าน หนังสือออกแบบ เว็บสวย ๆ ต่าง ๆ มาปั่นๆ mixๆ กัน จนออกมาเป็นบ้านหลังนี้ครับ



ก่อนที่จะไปต่อ ขอแจกแจงก่อนนะครับ เผื่อหลายคนสงสัยว่าทำไมทำขนาดนี้ ไม่ซื้อบ้านไปเลย ก็เหตุผลตามนี้ครับ
1.ผมทำงานในรพ.ล้วน อยู่เวรก็โดนตามบ่อย ฉะนั้นมีบ้านในรพ.ที่สามารถเดินไปทำงานได้ 5 นาทีถึง ถือว่าสะดวกมากครับ
2.ค่าบ้านข้างนอก ถ้าเอาพื้นที่ขนาดนี้ (หน้ากว้าง 14 เมตร ลึก 17 เมตร พื้นที่ใช้สอยผมทำไป 300 ตรม.) ทำเลขนาดนี้ ราคาตลาด ผมว่ามี 4-5 ล้านได้ครับ แถมอยู่นอกรพ.อีก ถ้าโดนตามดูคนไข้แต่ละทีต้องขับรถฝ่ารถติดมาดูครับ
3.สิ่งแวดล้อม ในเมื่ออยู่ในรพ. ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง ก็เป็นหมอ พยาบาลหมด ก็ถือว่าน่าจะอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง
4.อยู่ในรพ. ค่าน้ำ-ค่าไฟก็เบิกได้บางส่วน อย่างน้อยเดือนละ 2-300 บาท ก็ประหยัดได้อีกส่วนหนึ่งครับ
5.นึกไม่ออก
พอนับข้อดีได้ 5 ข้อแล้ว ก็เลยตัดสินใจทำบ้านพักในนี้แหละครับ

จากนั้นก็จะมีคำถามมาอีกว่าทำขนาดนี้กับของหลวงได้หรือไม่
ซึ่งเรื่องนี้ผมเองก็กังวลอยู่ แต่จากการสอบถามจากหัวหน้าและผู้บังคับบัญชาหลาย ๆ ระดับ เพื่อนร่วมงานหลาย ๆ ท่านที่ปรับปรุงบ้านหลวง ทุกคนก็บอกว่าทำไปเหอะ ขอให้ดูดีก็พอ แต่ที่สำคัญต้องจำไว้คือถ้าย้ายก็ต้องทิ้งไว้ให้หลวงนะ ถอดยกไปไม่ได้ แต่ถ้าไม่ทำชั่วร้ายแรงก็คงอยู่ได้ถึงเกษียณนั่นแหละ  ซึ่งจากตรงนี้ผมก็ สบายใจในระดับนึง ครับ คิดว่าทำทั้งทีขอให้อยู่สบาย ๆ เราไปเที่ยวไม่กี่วันยังหมดเป็นหมื่น ถ้าอยู่ถึงเกษียณจริงใครจะมาเอาต่อไปก็ให้เค้าเหอะ

เกริ่นมานานมาก ดูเลยละกันนะครับ

ภาพแตกไปหน่อยนะครับ ใช้รูปจากไลน์
แบบภายนอก  พอเสร็จปรับออกบ้าง ตามงบและความจำเป็นครับ



แบบภายใน บางส่วน (เช่นกันครับ ตอนแรก Interior ใส่มาเยอะกว่านี้มาก แต่ผมขอตัดออกก่อนเพราะงบหมด โดยเน้นขอให้ช่วยเลือกสี วัสดุ และการตกแต่งเป็นหลัก บิวท์อินน้อย ๆ ขอเฟอร์นิเจอร์ลอยเพราะเคลื่อนย้ายได้)

เมาท์นิดนะครับ ก่อนหน้านี้เวลาเราอ่านเกี่ยวกับ interior จะรู้สึกจำเป็นไหม แพงไหม เว่อร์ไปรึเปล่า
ซึ่งตรงนี้พอมีโอกาสได้ทำงานกับอาชีพ Interior นี้จริง ๆ พบว่าเค้าช่วยเราได้เยอะมากนะครับ
ช่วยหลาย ๆ เรื่องที่เราต้องตัดสินใจ ทั้งเลือกสี เลือกกระเบื้อง เลือกเฟอร์นิเจอร์
คือปกติคนเราชีวิตนึงสร้างบ้านกันหลัง 2 หลัง แต่อาชีพนี้เดือนนึงออกแบบบ้านหลัง 2 หลัง
ฉะนั้นเค้าจะมีมุมมองเกี่ยวกับการเลือกวัสดุ การจัดวางของให้ได้ประโยชน์คุ้มค่าสุด ของหลายอย่างไม่ต้องแพงแต่วางออกมาแล้วสวย
สรุปพอบ้านเสร็จก็ปลื้มครับ สวยดี ชอบๆ ครับ

net ช้าสุดๆ
ดูตอนเสร็จเลยละกันนะครับ
ภายนอกครับ

ตรงนี้ขยายโรงรถเดิมเพิ่ม มาสุดพื้นที่หน้าบ้าน เพื่อจะได้ห้องรับแขกยาวขึ้น

ส่วนลานจอดรถเดิมปูไม้ conwood จัดหลังคาโปร่งแสงตราช้างเข้าไปเพื่อความสว่าง รั้วสีดำแบบ modern หน่อย

 

ส่วนลานจอดรถจริง ๆ เทพื้น ปูกระเบื้อง porcelain หลังคา metalsheet พร้อมประตูเข้าด้านข้างอีกอันครับ จอดเสร็จจะได้เข้าบ้านเลย

ห้องโถงครับ

อันนี้ต่อจากเดิมมาสุดพื้นที่บ้านด้านหน้า ทำให้ได้พื้นที่เพิ่มมาพร้อมโต๊ะเขียนหนังสือเด็กสีชมพูแป๊ด (โลตัสมีแต่สีนี้อะ ขัดโทน modernไปนิด แต่ลูกชอบมาก) ห้องนี้ใช้งานมากสุดแล้วครับ มีโซฟา มีทีวี มีคอม และมีของเล่นเด็กด้วย

ห้องกินข้าวและครัวใน

อันนี้ต่อมาจากห้องโถงครับ แบ่งด้วยประตูกระจกครับ มีครัวในและตู้เย็น 2 ตู้ (มีลูกสองคน 4 ขวบกับขวบครึ่งแต่ของเยอะมาก)  กำแพงใส่กระจกเงาบานนึง interior บอกจะได้เพิ่มมิติและดูกว้าง มีไฟบนโต๊ะกินข้าวด้วย อนาคตเฟสสองห้องนี้น่าจะติดแอร์ครับเพราะร้อน

ครัวนอก

อันนี้ต่อเติมเพิ่มจากบ้านเดิมครับ ลงเข็มตอม่อเรียบร้อย หลังคาเมทัลชีทครับ เอาไว้ทำอาหารเป็นหลัก ข้างหลังบ้านโล่ง ใส่หน้าต่างเยอะ ๆ พร้อมปล่องดูดควัน อีกฝั่งเป็นเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า อนาคตอันไกลน่าจะมีเครื่องล้างจาน (แม่บ่นว่าอยู่กัน 4 คน ทำกับข้าวก็ไม่เป็น ทำครัวใหญ่กว่าร้านข้าวแกงอีก)

ข้างบ้าน

มีต้นมะขามเดิมเรียงเป็นแนวรั้ว ของเดิมเป็นดิน แต่คุณแฟนรู้สึกรกและทำความสะอาดยาก ก็เลยเทพื้นปูนขัดมัน และทาสีกำแพงด้วย (จะบานไปไหน) แต่ทำแล้วก็สวยดีครับ

ประตูครัวเปิดไปเป็นที่ลานกว้าง วางถังน้ำ 1,500 ลิตร ปั๊มน้ำ kikawa จากคนในพันทิพแนะนำครับ และเอาไว้ซักล้าง (พูดไปงั้นอยู่มาจะสองเดือน ซักเครื่องตัลหลอด) แดดเปรี้ยงคุณแม่บ้านยังอบผ้าเลย
T.T

ห้องโถงเล็ก
อันนี้ตอนนี้เอาไว้ใส่ของเด็ก เสื้อผ้าเด็กครับ อนาคตคงเอาไว้เป็นห้องสำหรับญาติผู้ใหญ่เวลาแก่ ๆ จะได้ไม่ต้องขึ้นบันได ติดแอร์ ทำไฟเรียบร้อย

ห้องแม่บ้าน
อันนี้ทำหรูมาก เสร็จเป็นห้องแรก เพราะว่าเอาไว้ให้ลูกเรานอนด้วย เวลาผมกับคุณแฟนอยู่เวร
ที่นอนหกฟุต ติดแอร์ ใส่ดาวนไลท์ ทีวีในตัว ติดสวนอีก เริ่ด

ห้องน้ำล่าง

เดิมห้องน้ำล่างจะเล็กมากอยู่กลางบ้าน งานนี้เจ้าของบ้านอยากได้ห้องน้ำใหญ่ๆ ก็เลยทลายกำแพงข้างหลังออก เพิ่มพื้นที่มาอีกเท่านึง แบ่งโซนเปียกแห้ง ใฃผนังกั้น ตอนแรกกะเป็นกระจกแต่คุณแฟนทักทำความสะอาดยาก หยดน้ำ คราบฟอง ก็เลยตัดสินใจใช้ผนังปูกระเบื้อง interior ก็เลยบอกถ้างั้นเจาะแถวกลางไว้หน่อยจะได้ไม่ทึบ และเจาะช่องแสงธรรมชาติ
สรุป ดีงามครับ

ข้างบน
บันไดเป็นไม้แดงครับ ราวเหล็ก ก็ทำการทาสีใหม่ให้ดูเข้มขึ้น ใส่บล็อกแก้วเพื่อเพิ่มแสงจากภายนอก ยกหน้าต่างให้สูงขึ้น
ใส่ผ้าม่านทิ้งตัวให้ดูสูงโปร่ง interior ออกแบบโคมไฟให้ มี 3 อันต่างระดับ สวยดีครับ

ห้องน้ำบน

เปลี่ยนทุกอย่างครับ พื้น ผนัง สุขภัณท์ กระจก บานเกร็ด ใส่เครื่องทำน้ำอุ่น

ห้องนอนเล็ก
ห้องนี้พื้นไม้เดิมครับ แต่ขัดสี ลงสีใหม่ ทำฝ้าใหม่ ไฟใหม่ ใส่เฟอร์เอาไว้สำหรับแขก และคุณพ่อ คุณแม่เวลาท่านลงมาเยี่ยมครับ

ห้องแต่งตัว อันนี้ของเก่าเป็นส่วนห้องนอนเดิมครับ พื้นไม้ทำสีใหม่ กั้นประตูกระจก ตู้เสื้อผ้าใหญ่ยักษ์ 2 ตู้ (จะได้ไม่มาเบียดตู้เรา)

ห้องนอนหลัก ตรงนี้แหละครับที่ทำให้ค่าทำแพง เพราะเป็นส่วนที่ทำเพิ่มจากของเดิม คือบ้านเดิมจะสุดแค่ห้องแต่งตัว แต่ด้วยความที่อยากให้ห้องนอนใหญ่ๆ สำหรับลูก ๆ ด้วย ก็เลยต่อเติมทำชั้นสองขึ้นมา ซึ่งก็ให้วิศวะเค้ามาดูแลด้วย เพราะบ้านเก่า กลัวทรุด ก็เลยได้ออกมาเป็นลงเข็ม ทำตอม่อ โครงเหล็ก และก็ปูพื้นด้วยสมารทบอรด์จะได้เบาครับ จากนั้นผิวหน้าก็ปูเป็นกระเบื้องยางลายไม้ หลังคาเป็นเมทัลชีทกรุฉนวนและเหนือฝ้าก็ใส่ฉนวนอีกชั้น เพราะคนออกแบบอยากให้วัสดุเบาที่สุด

ก็ออกมาเป็นแบบนี้ครับ เลยได้ห้องนอนยาวสมใจ

และก็ใช้ที่นอน 6 ฟุต 2 ตัวต่อกันครับ นอนกัน 4 คนพ่อแม่ลูก
ต่อจากห้องนอนเป็นระเบียงครับ ปูกระเบื้องไว้ตากผ้าเล็กผ้าน้อย มีซิงค์ไว้ล้างขวดนมด้วย

อ้อ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ ใช้ของ index นะครับ ขึ้นไปเลือกกับ interior ที่กรุงเทพเลย ตอนแรกไป ikea ก่อน ก็เลือกเสร็จแล้วพอจะจ่ายเงิน พนักงานบอกต้องยกทั้งหมดจากชั้นลงมาจ่ายเคาท์เตอร์  จบเลยครับ แหม ผมซื้อทั้งบ้าน เตียง 3 หลัง ตู้ 10 ใบ เกือบครึ่งล้าน ไปกัน 3 คนจะยกมาไง เลยเปลี่ยนใจไป index เลยครับ มีบริการจัดส่งมานครศรีธรรมราชด้วย ประกอบให้เสร็จสรรพ เลยยอมสวยน้อยลงหน่อยครับ แต่จบ ไม่งั้นเอามาประกอบเอง ป่านนี้อาจยังไม่เสร็จครับ

ระบบน้ำ ระบบไฟ เดินใหม่หมดทั้งบ้านครับเพื่อความปลอดภัย
วัสดุ เนื่องจากอยู่เองก็ใช้ของมีมาตรฐานหน่อย อะไรเค้าว่าดีจัดมาหมด วัสดุตราช้างทั้งหลังครับตั้งแต่ปูนยันหลังคา ,กลอน yale  ,สุขภัณท์ American  ,สี supershield ,กระเบื้อง cotto  ,ก๊อก VRH  หลอดไฟ LED philips (บ้าแบรนด์นิดนึง เดี๋ยวอยู่ไม่ถึง 30 ปี)

ก็จบแล้วครับ สำหรับการรีวิว ปลุกบ้านอายุ 30 ปีครับ ตอนนี้เข้ามาอยู่ได้ 2 เดือนแล้วครับ ทำบุญบ้านเรียบร้อย  ยังไม่ค่อยคุ้นครับเพราะอยู่หอมา 10 กว่าปี พอมีบ้านใหญ่ขึ้น เลยรู้สึกทำไมเก็บกวาดไม่หมดซักที ประกอบกับตัวเล็กวัยกำลังรื้อเลย  รกทั้งวันครับ (ภาพที่ลงนี่บางรูปเอารูปก่อนย้ายเข้ามาลงให้ดู จะได้ไม่รกมาก)  หลายๆอย่างก็ค่อยๆหาซื้อมาเติมครับ อาจยังไม่สมบูรณ์แบบมาก หลายอย่างก็ตัดไปตามงบก่อน แต่โดยรวมครอบครัวผมก็พอใจมากเลยครับ
ใครมีอะไรสอบถามหรือปรึกษาอะไร ถ้าตอบได้จะพอตอบให้นะครับ

ส่วนงบนี้ทั้งหมดรวมเฟอร์ด้วย ประมาณ 2 กว่า ๆ นะครับ ใช้ประมาณเวลา 4 เดือนครับ เป็น 4 เดือนที่เหนื่อยมาก ๆ มีเรื่องปวดหัวทุกวัน ทั้งเรื่องแบบ เรื่องช่าง เรื่องของ เรื่องวัสดุ  มีเรื่องบ่นได้งอนกับแฟนเกือบทุกวัน  แต่พอเสร็จแล้วก็มีความสุขมาก ๆ ครับ
เพราะนี่บ้านของเราครับ (ลืม ๆ ของหลวงครับ แต่เราสร้างครอบครัวที่นี่กันครับ)

ใช้งบประมาณไปทั้งหมด 2 ล้านกว่าๆ ครับ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 300 ตรม.กว่าๆ ครับ
ทำเสร็จจำแทบไม่ได้เลย (จำสมุดบัญชีตัวเองแทบไม่ได้เลยครับ)
ดีที่คุณแฟนกับคุณพ่อตาร่วมเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ครับ



 

อัลบั้มภาพ 32 ภาพ

อัลบั้มภาพ 32 ภาพ ของ ปลูกบ้านอายุ 30 ปี ให้อยู่ได้อีก 30 ปี สาธุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook