ฟิลิปส์ เผยความลับแห่งแสงสว่าง ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกอารมณ์และความรู้สึก

ฟิลิปส์ เผยความลับแห่งแสงสว่าง ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกอารมณ์และความรู้สึก

ฟิลิปส์ เผยความลับแห่งแสงสว่าง  ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกอารมณ์และความรู้สึก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรุงเทพฯ 28 เมษายน 2559 – บริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแสงสว่างอันดับ 1 ในตลาด เปิดตัวแคมเปญ “Philips LED ที่สุดทุกอารมณ์แสง” เผยความลับของแสงไฟที่จะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านสร้างอารมณ์และความรู้สึก ด้วยนวัตกรรมแสงสว่างให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีมากยิ่งขึ้น


     นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า การเลือกใช้หลอดไฟ/โคมไฟแอลอีดี ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะแสงไฟจากนวัตกรรมแสงสว่างแอลอีดีมีศักยภาพมากกว่าเพียงให้ความสว่างและประหยัดพลังงาน เพื่อให้สามารถเพื่อตอบโจทย์ทุกอารมณ์และความรู้สึกทุกการใช้งานไม่ว่าความต้องการของผู้ใช้จะเป็นอย่างไร และต้องการใช้แสงไฟแบบไหนภายในบ้าน


     “ปัจจุบันคนไทยหันมาใช้หลอดไฟแอลอีดีมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่สามารถช่วยประหยัดลังงานได้มากกว่า 90% มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ปราศจากรังสี UV และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะที่สินค้าเองก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย ในฐานะที่ฟิลิปส์เป็นผู้นำตลาด เราจึงเห็นความจำเป็นในการให้ความรู้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นที่มาของแคมเปญ “Philips LED ที่สุดทุกอารมณ์แสง” นี้” นายเฉลิมพงษ์ กล่าว


     ภายในงานเปิดตัวแคมเปญ “Philips LED ที่สุดทุกอารมณ์แสง” ที่ลานกิจกรรม ชั้น 3 สยามสแควร์วัน วันที่ 28 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ฟิลิปส์ได้เชิญ อาเล็ก ธีรเดช นักแสดงชายที่กำลังศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกแสงไฟสำหรับบ้านที่กำลังสร้างใหม่ ควงคู่มากับพิธีกรหญิง จอย รินลิณี เพื่อร่วมพูดคุยและเปิดประสบการณ์ใหม่ของความลับของแสงทั้ง 4 ประการ ได้แก่ ระดับความสว่าง โทนสีของแสง ค่าความถูกต้องของสี และการจัดวางแสง เพื่อสร้างความเข้าใจและรับรู้ว่าแสงนั้นมีความสำคัญกับอารมณ์มากเพียงใด


     1. ระดับความสว่าง (Lighting Level) “ปรับระดับความสว่างได้ตามอารมณ์” ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี LED Lighting ทำให้ผู้บริโภคสามารถปรับระดับความสว่างของแสงภายในห้องได้ตามความต้องการหรือตามกิจกรรมที่ทำภายในห้องนั้น อาทิ ระดับความสว่างที่ 100% เพื่อการอ่านหนังสือ หรือ สามารถปรับลดระดับความสว่างลงมาเหลือเพียง 50% หรือ 10% เพื่อการพักผ่อน ก็สามารถทำได้จากหลอดไฟหรือโคมไฟฟิลิปส์แอลอีดี
     2. โทนสีของแสง (Tone Color) “สร้างอารมณ์ด้วยโทนสีของแสง” โทนสีของแสงจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ขาวอุ่น (Warm White) ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และขาวเย็น (Cool White หรือ Day Light) ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง และมีพลัง
     3. ความถูกต้องของสี (CRI: Color Rendering Index) “สีตรงดั่งใจด้วยค่าแสงที่ใช่” CRI (Color Rendering Index) การเลือกใช้หลอดไฟที่มีค่าความถูกต้องของสีที่สูง จะทำให้เราสามารถมองเห็นว่าแสงจากหลอดไฟสามารถส่องวัตถุแล้วทำให้เกิดสีเหมือนธรรมชาติได้ขนาดไหน
     4. การจัดวางแสง (Lighting Design) “บรรยากาศสวยด้วยการออกแบบแสง” สามารถใช้เทคนิคการจัดแสง 2 วิธี ได้แก่ คือ แบบโดยตรง (Direct Light) จะเป็นการให้แสงโดยตรงแสงจากหลอดไฟ/โคมไฟ เพื่อให้ความสว่าง และแบบโดยอ้อม (Indirect Light) จะเป็นคือการเลือกใช้แสงเพื่อสะท้อนพื้นที่หรือวัตถุต่างๆ ภายในห้อง เพื่อเพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับห้องมากขึ้น

     “ฟิลิปส์ ได้มีการพัฒนาด้านนวัตกรรมหลอดไฟแอลอีดี อย่างไม่หยุดนิ่ง โดยนอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์หลอดไฟแอลอีดี คุณภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สามารถช่วยประหยัดลังงานได้มากกว่า 90% มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ปราศจากรังสี UV และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ในปี พ.ศ.2559 นี้ ฟิลิปส์ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจแสงสว่างในประเทศไทย เตรียมนำทัพนวัตกรรมแสงสว่างแอลอีดีใหม่ออกสู่ตลาดพร้อมไปกับการสื่อสารถึงเทคนิคการเลือกใช้หลอดไฟ/โคมไฟให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตและกิจกรรมที่ทำ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการใช้นวัตกรรมแสงสว่างแอลอีดีสูงที่สุด” นายเฉลิมพงษ์ กล่าว

     ไฮไลท์นวัตกรรมแสงสว่างแอลอีดีใหม่ในปี พ.ศ.2559 ได้แก่
- หลอดไฟ Philips Essential LED Bulb ประหยัดไฟกว่า 88% เมื่อเทียบกับหลอดไส้ และกินไฟน้อยกว่าถึง 36% เมื่อเทียบเท่าหลอดประหยัดไฟด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 8,000 ชม. ปราศจากรังสี UV และอินฟาเรด ให้ความร้อนต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีให้เลือกในขนาดวัตต์ที่ 7 วัตต์ และ 9 วัตต์ และ 2 โทนสีของแสงคือมีโทนสีของแสงคูลเดย์ไลท์ (6500K) และวอร์มไวท์ (3000K)
- หลอดไฟ Philips LED Filament หลอดไฟแอลอีดี ดีไซน์สไตล์คลาสสิก-วินเทจ หลากหลายรูปแบบ มาพร้อมกับแสงวอร์มนุ่มสบายตาเหมือนหลอดไส้ของจริง ช่วยประหยัดไฟกว่า 90 % พร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 15,000 ชม. ปราศจากรังสี UV และอินฟาเรด ให้ความร้อนต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีให้เลือกในขนาดวัตต์ที่ 2.3 วัตต์ , 4.3 วัตต์ และ 7.5 วัตต์
- หลอดไฟ Philips LED SceneSwitch หลอดไฟแอลอีดี มาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถปรับเปลี่ยนโทนแสงคูลเดย์ไลท์และวอร์มไวท์ (3000k&6500k) ได้ในหลอดเดียวด้วยการ “ปิดและเปิด” สวิตซ์ไฟตัวเดิมโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติม เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศในห้องอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว
- หลอดไฟ Philips LED EcoFit หลอดไฟแอลอีดี ชนิดตรงที่สามารถเปลี่ยนทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์เดิมที่ใช้อยู่แล้วได้ทันที โดยไม่ต้องทำการติดตั้งระบบไฟใหม่ อายุการใช้งาน 15,000 ชั่วโมง มีให้เลือกในขนาดวัตต์ที่ 8 วัตต์ และ 16 วัตต์

     ภายใต้แคมเปญ “Philips LED ที่สุดทุกอารมณ์แสง” ฟิลิปส์ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษ มอบส่วนสดสูงสุดถึง 50 บาท สำหรับหลอดไฟแอลอีดีที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ได้แก่ หลอดไฟ LED SceneSwitch ลด 50 บาท หลอดไฟ LED Filament ลด 50 บาททุกรุ่น หลอดไฟ EcoFit LEDtube ลด 10 บาททุกรุ่น และ หลอดไฟ Philips Essential LED Bulb ราคาเริ่มต้น 99 บาท


     ฟิลิปส์ตอกย้ำและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ในกรุงเทพและต่างจังหวัด (ชลบุรี อุดรธานี และหนองคาย) พร้อมประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์โดยจัดทำเป็นวิดีโอคลิปเกี่ยวกับ 4 ความลับของแสงเพื่อให้สร้างความเข้าใจและรับรู้ว่าแสงนั้นมีความสำคัญกับอารมณ์มากขนาดไหน


     นายเฉลิมพงษ์ กล่าวปิดท้ายว่า แคมเปญ “Philips LED ที่สุดทุกอารมณ์แสง” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฟิลิปส์ในการรุกตลาดแสงสว่างในประเทศไทย สร้างความแตกต่าง ให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ใหม่กับนวัตกรรมแสงสว่างแอลอีดี เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้มากยิ่งขึ้น”


เกี่ยวกับ Philips Lighting

Philips Lighting ภายใต้การบริหารของบริษัท รอยัลฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) เป็นบริษัทชั้นนำด้านไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง ที่ผนวกความเข้าใจในผลกระทบด้านบวกของแสงไฟที่มีต่อวิถีชีวิตของผู้คนเข้ากับความรู้ด้านเทคโนโลยีเชิงลึก ทำให้สามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นเพื่อแสงสว่างแบบดิจิตัล สร้างมูลค่าทางธุรกิจ ส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลาย และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ตอบสนองตลาดของผู้บริโภคและภาคธุรกิจด้วยอุปกรณ์แสงสว่าง LED ที่มีพลังงานประสิทธิภาพสูงกว่าบริษัทอื่นๆ เป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านเทคโนโลยีแสงสว่างอัจฉริยะ และใช้ประโยชน์จาก Internet of Things ในการยกระดับให้แสงสว่างให้เป็นมากกว่าการให้ความสว่าง เพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ให้กับบ้าน และพื้นที่อาคารต่างๆ ได้ ในปีพ.ศ. 2558 บริษัทฯ มียอดขายกว่า 7.4 พันล้านยูโร และมีพนักงานกว่า 33,000 คนทั่วโลก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ ได้ที่ www.ฟิลิปส์.com/newscenter




[Advertorial]

อัลบั้มภาพ 28 ภาพ

อัลบั้มภาพ 28 ภาพ ของ ฟิลิปส์ เผยความลับแห่งแสงสว่าง ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกอารมณ์และความรู้สึก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook